เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด

เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด

เกษตรฯ ยกระดับควบคุมทุเรียนคุณภาพภาคตะวันออกฤดูกาลปี 67 ตลอดห่วงโซ่ เน้นย้ำใช้มาตรการ กำหนดเปอร์เซ็นต์แป้ง กำหนดวันเก็บเกี่ยว และตรวจก่อนตัด สกัดทุเรียนอ่อน

KEY

POINTS

  • โมเดลควบคุมทุเรียน ให้การกำหนดระดับความแก่ของทุเรียน กำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียนภาคตะวันออกฤดูกาลผลิต ปี พ.ศ. 2567 ในแต่ละสายพันธุ์ เก็บตัวอย่างทุเรียนตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน
  • ไทยครองส่วนแบ่งตลาดทุเรียนสด ในจีน ร้อยละ 65.15 คิดเป็นปริมาณการนำเข้าทุเรียนสดจากประเทศไทย 928,976 ตัน
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศ มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง หลักการปฏิบัติในการตรวจ และรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ.9070-2566)

เกษตรฯ ยกระดับควบคุมทุเรียนคุณภาพภาคตะวันออกฤดูกาลปี 67 ตลอดห่วงโซ่ เน้นย้ำใช้มาตรการ กำหนดเปอร์เซ็นต์แป้ง กำหนดวันเก็บเกี่ยว และตรวจก่อนตัด สกัดทุเรียนอ่อน

ภาคตะวันออกถือเป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่สำคัญและเป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกปีละหลายแสนตัน สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ  ในฤดูกาลผลิตทุเรียนแต่ละปีมักจะมีกลุ่มบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องหลายกลุ่ม ทั้งในกระบวนการผลิต การตัด และการซื้อขายทุเรียน และในบางครั้งมีการตัดหรือเก็บเกี่ยวทุเรียนก่อนถึงระยะที่เหมาะสม ทำให้มีทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) คละปนออกมา และนำเข้ามาจำหน่ายในตลาด ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการตลาด ภาพลักษณ์ ชื่อเสียง และเศรษฐกิจ 

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้เน้นย้ำไปยังเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในการควบคุมคุณภาพผลผลิตทุเรียนให้มีมาตรฐานสำหรับการบริโภค พร้อมยกระดับความเข้มข้นให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่สร้างการรับรู้เกี่ยวมาตรการต่าง ๆ   โดยยึดโมเดลการบริหารจัดการที่สำเร็จเห็นผลเป็นรูปธรรมในปีที่ผ่านมาเพื่อนำมาปรับใช้ในฤดูกาลปี 2567

เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด

นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัด (จังหวัดระยอง จันทบุรี และจังหวัดตราด) ประสานและดำเนินการในการจัดทำคำสั่ง/ประกาศของจังหวัด อาศัยอำนาจทางการปกครองโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นข้อมูลในการดำเนินการต่อไปด้วย

สำหรับโมเดลการบริหารจัดการที่นำมาใช้ในการควบคุมทุเรียนด้อยคุณภาพนั้น ประกอบไปด้วย

 1) การกำหนดระดับความแก่ของทุเรียน ด้วยการวิเคราะห์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน โดยใช้เกณฑ์กำหนดน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ มกษ. 3 - 2556 มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง ทุเรียน ซึ่งกำหนดน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนสำหรับการบริโภคในแต่ละสายพันธุ์ โดยกำหนดให้ทุเรียนพันธุ์กระดุม มีน้ำหนักเนื้อแห้งขั้นต่ำ 27 เปอร์เซ็นต์ พันธุ์ชะนี มีน้ำหนักเนื้อแห้งขั้นต่ำ 30 เปอร์เซ็นต์ พันธุ์พวงมณี มีน้ำหนักเนื้อแห้งขั้นต่ำ 30 เปอร์เซ็นต์ และพันธุ์หมอนทอง มีน้ำหนักเนื้อแห้งขั้นต่ำ 32 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนต่ำกว่านี้ถือว่าเป็นทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน)

เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด

 

ดังนั้น หากเกษตรกร พ่อค้าคนกลาง มือตัด พ่อค้าปลีก และผู้ประกอบการส่งออก (ล้ง) ผู้ใดจำหน่ายทุเรียนที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนต่ำกว่าที่ประกาศนี้ จะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 “ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้น ไม่เป็นความผิด ฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ” และความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47 “ผู้ใดโดยเจตนา ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนและปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

2) กำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียนภาคตะวันออกฤดูกาลผลิต ปี พ.ศ. 2567 ในแต่ละสายพันธุ์ ดังนี้ ทุเรียนพันธุ์กระดุม วันที่ 15 เมษายน 2567 พันธุ์ชะนีและพันธุ์พวงมณี วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 พันธุ์หมอนทองวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะเก็บเกี่ยวและส่งออกทุเรียนก่อนกำหนดวันเก็บเกี่ยวในแต่ละสายพันธุ์ กรณีเกษตรกรและมือตัดให้แจ้งความประสงค์จะเก็บเกี่ยวทุเรียน พร้อมนำตัวอย่างทุเรียนที่จะเก็บเกี่ยวในแต่ละสายพันธุ์จากแปลงที่จะเก็บเกี่ยว และต้องไม่มีร่องรอยการเปิดกรีด จำนวน 1 ผล นำมาตรวจเปอร์เซ็นต์ น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน ณ จุดบริการตรวจก่อนตัดที่กำหนดไว้ ก่อนเก็บเกี่ยวอย่างน้อย 3 วัน กรณีโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ที่จะส่งออก แจ้งความประสงค์จะส่งออกทุเรียน ณ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 หรือด่านตรวจพืชเพื่อสุ่มตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนก่อนเข้าสู่กระบวนการตรวจศัตรูพืช และปิดตู้ส่งออก

3) การขอความร่วมมือ โดยให้เกษตรกรและมือตัดทุเรียน เก็บตัวอย่างทุเรียนในสวนของตนเองหรือในสวนที่จะตัด และนำไปตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน และขอให้มีการขึ้นทะเบียนนักคัดและนักตัดทุเรียน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด จุดบริการตรวจก่อนตัด ออกหนังสือรับรองผลการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนตัวอย่างที่ส่งตรวจให้กับเกษตรกรหรือผู้ส่งตรวจ โรงคัดบรรจุ (ล้ง) สื่อสารกับเกษตรกรและมือตัดทุเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการตรวจก่อนตัดอย่างเคร่งครัด

และทุกครั้งที่รับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรหรือมือตัด และต้องขอหนังสือรับรองผลการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน จากจุดบริการตรวจก่อนตัด ชุดปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพทุเรียน สวพ.6 ขอตรวจหนังสือรับรองผลการตรวจ น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน และให้ลงชื่อกำกับในหนังสือรับรองผลการตรวจน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนในแต่ละรอบของการตรวจสอบคุณภาพก่อนปิดตู้ส่งออก ส่วนแผงรับซื้อทุเรียนในตลาดค้าส่ง ขอหนังสือรับรองผลการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียนจากผู้ที่นำทุเรียนมาขาย เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ที่มาตรวจแผงรับซื้อ

" จังหวัดในภาคตะวันออกได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้นเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของทุเรียนที่กำลังจะให้ผลผลิตออกสู่ตลาด ขณะนี้ทางจังหวัดจันทบุรี ระยอง และจังหวัดตราดได้ออกประกาศจังหวัด เรื่อง การกำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน การกำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียน

และ ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการตรวจก่อนตัด เรียบร้อยแล้ว โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่เฝ้าติดตามทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมคุณภาพผลผลิตทุเรียนให้ได้มาตรฐาน ผู้บริโภคได้รับประทานทุเรียนคุณภาพ และส่งผลดีด้านการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศต่อไป" 

นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)  กล่าวว่า ทุเรียน “ราชาผลไม้” ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีศักยภาพในการผลิตและส่งออกสูง ตลาดการส่งออกทุเรียนไทยที่สำคัญ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรอันดับหนึ่ง ในปี 2566 จีนนำเข้าทุเรียนสด มากถึง 1.4 ล้านตัน

 

เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด

โดยประเทศไทยครองส่วนแบ่งตลาดทุเรียนสด ในจีน ร้อยละ 65.15 คิดเป็นปริมาณการนำเข้าทุเรียนสดจากประเทศไทย 928,976 ตัน แม้ว่าปริมาณการนำเข้าทุเรียนสดจากไทยไปจีนยังคงมีตัวเลขที่สูง แต่หนึ่งปัญหาที่พบบ่อยครั้ง นั่นคือการเร่งตัดทุเรียนเพื่อการบริโภคสดก่อนถึงอายุเก็บเกี่ยว ทำให้มีทุเรียนอ่อนและด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในวงกว้าง รวมไปถึงมีผลกระทบต่อสภาวะการค้าทุเรียนไทยในภาพรวม

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ประกาศ มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง หลักการปฏิบัติในการตรวจ และรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ.9070-2566) เพื่อเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการส่งออกทุเรียนของไทยในการการควบคุมการคัดเลือกทุเรียนให้ได้ผลทุเรียนที่แก่ มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกทุเรียนของไทย

นอกจากนี้ การควบคุมขั้นตอนการตัดผลทุเรียนสด การคัดเลือก รวมไปถึงการบรรจุทุเรียนของไทยให้มีมาตรฐาน จะช่วยให้ทุเรียนที่ออกจำหน่าย รวมไปถึงการส่งออกนั้นมีคุณภาพ น่าเชื่อถือ ส่งผลต่อความนิยมทุเรียนของประเทศไทยให้อยู่ในระดับต้น ๆ ของโลก

เกษตรฯคุมเข้มทุเรียนตะวันออก ย้ำมาตรการตรวจก่อนตัด

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2566 มกอช. ได้จัดเตรียมความพร้อมในการสร้างองค์ความรู้ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง หลักปฏิบัติ
ในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงงานและโรงคัดบรรจุ (มกษ.9070-2566) ให้ผู้เกี่ยวข้องในขอบข่าย
ของมาตรฐานดังกล่าว ประกอบด้วย ผู้ผลิต คือ โรงรวบรวมหรือโรงคัดบรรจุ ผู้ส่งออก คือผู้ส่งออกทุเรียนผลสด
ที่ใช้สินค้าจากผู้ผลิตอื่น และ ผู้นำเข้า คือ ผู้นำเข้าทุเรียนผลสด รวมไปถึงผู้ที่สนใจ

โดยการสร้างองค์ความรู้ ทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online รวมถึงยังมีการเรียนรู้ตามมาตรฐานผ่านระบบ E-Learning รวมไปถึงการจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน เพื่อให้สถานประกอบการ (ล้งทุเรียน) นำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน อีกทั้งยังมีการเตรียมความพร้อมโดยพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ตามมาตรฐานให้แก่เจ้าหน้าที่จากหน่วยรับรองที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับประชาสัมพันธ์มาตรฐานสินค้าเกษตรดังกล่าวผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ มกอช.

สำหรับมาตรฐานสินค้าเกษตรดังกล่าว มีขอบข่ายในการกำหนดหลักปฏิบัติในขั้นตอนการตรวจ และรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ เพื่อให้ได้ผลทุเรียนที่เป็นผลแก่ ตามข้อกำหนดของมาตรฐานสำหรับจำหน่าย ส่งออกและนำเข้า ซึ่งหลักการปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนตามมาตรฐานดังกล่าว
แบ่งรายละเอียดหลักๆ เป็น 3 ส่วน ดังนี้

1. การตรวจและรับผลทุเรียน : ผู้ประกอบการโรงรวบรวมหรือโรงคัดบรรจุ ต้องมีมาตรการการตรวจสอบความแก่ของผลทุเรียนก่อนรับเข้าสู่กระบวนการจัดการ มีการตรวจหลักฐานแสดงการจัดการของแหล่งปลูกของผลทุเรียนทุกรุ่นที่จะรับเข้าสู่กระบวนการจัดการ การตรวจลักษณะภายนอกของผลทุเรียนแก่ทุกผลจากทุกรุ่น
รวมไปถึงการสุ่มตรวจวิเคราะห์น้ำหนักแห้งของทุเรียน อย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนรุ่นที่จะรับเข้าต่อวัน

 

 

2. การฝึกอบรม: ผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง อันประกอบด้วย ผู้ควบคุมการเก็บเกี่ยว ต้องได้รับการฝึกอบรม
และผ่านการทดสอบจากโรงรวบรวมหรือโรงคัดบรรจุ หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานที่ภาครัฐ
ให้ความเห็นชอบ ผู้ตรวจสอบความแก่ของผลทุเรียน ต้องได้รับการฝึกอบรมจากภาครัฐหรือภาครัฐ
ให้ความเห็นชอบ และมีหลักฐานการผ่านทดสอบ และ ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจและรับผลทุเรียน
ในแต่ละรุ่นทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ต้องได้รับการฝึกอบรมหรือสอนงาน รวมไปถึงการประเมินผลอย่างน้อย
หนึ่งครั้งต่อปี

3. การบันทึกข้อมูลเพื่อการตามสอบ: โรงรวมรวบและโรงคัดบรรจุผลทุเรียนสดต้องทำการบันทึกข้อมูลการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจและรับผลทุเรียนในแต่ละรุ่น และเก็บรักษาบันทึกข้อมูล อย่างน้อย 2 ปี
เพื่อการตามสอบได้

 “และในปี 2567 นี้ มกอช. ยังได้วางแผนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ หลักการปฏิบัติตามมาตรฐาน มกษ.9070-2566 ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในขอบข่ายตามมาตรฐานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการผลิต การนำเข้า การส่งออกของทุเรียนไทยให้เกิดความเข้มแข็งและเติบโตไปอย่างยั่งยืน รวมไปถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยที่ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน”