ธรรมนัส เล็งยึดพื้นที่โคราช 3 พันไร่ เป็นป่าชุมชน มั่นใจใช่เขต ส.ป.ก.

ธรรมนัส เล็งยึดพื้นที่โคราช 3 พันไร่ เป็นป่าชุมชน มั่นใจใช่เขต ส.ป.ก.

ธรรมนัส มั่นใจ พื้นที่โคราช 3,000 ไร่ อยู่ในเขต ส.ป.ก. กรมอุทยานฯสับสนทำแนวกันไฟรุกชาวบ้านจนต้องย้ายพร้อมเล็งยึดคืนเป็นป่าชุมชน หลังเจ้าหน้าที่ส่อพิรุธเร่งจัดสรร

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีมีการพบหมุด ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่เขาใหญ่ ประมาณ 3 พันไร่  นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความชัดเจนจากกรมแผนที่ทหาร ที่ให้ได้ข้อมูลมาชี้้แจงต่อสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานใด   

 

 

โดยเบื้องต้นไม่อยากให้เกิดการขัดแย้งกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ  ปัญหาที่ดิน 3 พันไร่นั้นมีประวัติยาวนาน  เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้จำแนกที่ดิน ส.ป.ก. ให้เกษตรกรเป็นที่ทำกิน ในขณะที่่กรมอุทยานทำแนวกันไฟเช่นกัน  ซึ่งในสมัยปี 2051 กรมอุทยาน ได้ทำแนวกันไฟรุกที่ส.ป.ก. เกษตรกรชาวบ้านไม่สามารถเข้าทำกินได้อีก จึงออกจากพื้นที่ไป กลายเป็นเป็นป่ารก

ทั้งนี้เพื่อจัดพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นที่ทำกินตามที่เกษตรกรร้องขอ  ช่วงก่อนรัฐบาลชุดปัจจุบันจะเข้ามาบริหารงาน ส.ป.ก. ได้เร่งดำเนินการจัดสรรที่ดิน ในลักษณะ ส.ป.ก.  4-01 โดยแล้วเสร็จ ในเดือน พ.ย.  2566 เป็นช่วงที่ รัฐบาลปัจจุบันเข้ามาทำงานไม่ถึง 2 เดือน อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการทำงาน ตามข้อสังเกตุของสังคมที่เห็นว่าการจัดสรรที่ดิผืนนี้มีความรีบเร่ง  ออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่งเป็นข้อพิรุธ 

ธรรมนัส เล็งยึดพื้นที่โคราช 3 พันไร่ เป็นป่าชุมชน มั่นใจใช่เขต ส.ป.ก.

ดังนั้นจึงได้สั่งให้ส.ป.ก. ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และระหว่างการตรวจสอบก็สั่งให้เข้ามาอยู่ส่วนกลาง โยกย้ายทั้งหมดออกจากพื้นที่จนกว่าจะเกิดความชัดเจน

“ผมสั่งย้าย ข้าราชการส.ป.ก.โคราชที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เข้ามาอยู่ส่วนกลางทั้งหมด ถ้าผิดจริงผมไม่เอาไว้แน่ ผมเข้ามาอยู่ กระทรวงเกษตรฯ ผมต้องทำคววามสะอาดบ้านของตัวเองด้วย ถ้าผิดจริง เจอ 157 แน่นอน หากผลการตรวจสอบของกรมแผนที่ทหารปรากฏเป็นที่ ส.ป.ก. จะผมยกเลิกการแจก ยึดคืนที่ดินดังกล่าวไว้เป็นป่าชุมชน แต่เท่าที่ดูและได้สอบถามรายละเอียด ส.ป.ก.ไม่ได้รุกที่ป่าแน่นอน และในฐานะเจ้ากระทรวงที่ดูแล ส.ป.ก. มองว่าการแจก ส.ป.ก.ที่เร่งดำเนินการ โดยไม่ตรวจสอบให้รอบคอบ ส่อไม่โปร่งใส”

สำหรับประเด็นความเห็นไม่ตรงกัน ยืนยันว่า ที่ดินที่มีปัญหาเป็นของสำนักงาน ส.ป.ก. แน่นอน เพราะตามหลักฐาน ส.ป.ก.ได้รับมอบมาจากกรมป่าไม้ตามมติ คณะรัฐมนตรี ผครม.) เมื่อปี 2530 โดยเห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ที่ให้จำแนกพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 33,895 ไร่ ออกจากพื้นที่ป่าไม้ถาวร เพื่อไปจัดสรรกับเกษตรกรตามกฏหมายปฏิรูปที่ดินและคงไว้เป็นป่าถาวร จำนวน 3,729 ไร่

ดังนั้น สำนักงานส.ป.ก. ได้นำพื้นที่ดังกล่าวไปประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินในปี 2534 ซึ่งมติ ครม.ได้จำแนกพื้นที่ ที่คงไว้เป็นป่าถาวร 3,729 ไร่เพื่อป็นแนวกันชนระหว่างพื้นที่กรมอุทยานกับพื้นที่่ส.ป.ก. ซึ่งเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.โคราชอ้างว่า พื้นที่จัดสรรอยู่ใต้แนวกันไฟหลังแนวกันชน แต่กรมอุทยานขยายแนวเขต หลังจาก ส.ป.ก.ประกาศเขตปฏิรูปไปแล้ว  ในขณะที่่กรมอุทยานอ้างว่าที่ดังกล่าวเป็นของกรมอุทยาน

สำหรับ แนวทางการปฏิบัติงานของ ส.ป.ก. ที่ผ่านมา ส.ป.ก. จะมีเขตอำนาจในการบริหารจัดการที่ดินเฉพาะในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น  โดยจะตรวจสอบรังวัด ยึดตามแนวเขตแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน ที่มีขอบเขตในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน