ราคาน้ำมันปาล์มดันไบโอดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้น0.65บาทต่อลิตร

ราคาน้ำมันปาล์มดันไบโอดีเซล  ปรับตัวเพิ่มขึ้น0.65บาทต่อลิตร

เมื่อเร็วๆนี้ หน่วยงานด้านพลังงานออกมาระบุว่าราคาน้ำมันไบโอดีเซลไทยเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น0.65บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกยังคงเพิ่มขึ้น0.55บาทต่อกิโลกรัม

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพไทย พบว่า ราคาน้ำมันไบโอดีเซล อ้างอิงเฉลี่ย ระหว่างวันที่29ม.ค. – ก.พ.2567 อยู่ที่ ราคา36.40บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น0.65บาทต่อลิตร จากสัปดาห์ก่อน สาเหตุจากสถานการณ์ราคาผลปาล์มน้ำมัน ณ วันที่22-26ม.ค.2567เฉลี่ยอยู่ที่6.50 - 7.00บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกอยู่ที่ราคาประมาณ29.75บาทต่อกก. เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน0.55บาทต่อกก. โดยปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ ณ สิ้นเดือนธ.ค.2566อยู่ที่ประมาณ287,257ตัน ส่วนสต๊อกน้ำมันไบโอดีเซลB100ณ สิ้นเดือนธ.ค.2566อยู่ที่ประมาณ72.89ล้านลิตร

สำหรับภาพรวมสถานการณ์การผลิตปาล์มน้ำมันของไทยในปี2566 (ณ ธ.ค.2566)นั้น มีเนื้อที่ให้ผลผลิต5.81ล้านไร่ มีอัตราสกัดน้ำมันเฉลี่ยประมาณ18.38% มีผลผลิตน้ำมันปาล์มดิบประมาณ211,812ตัน และมีการส่งออกCPOประมาณ29,348ตัน โดยมีความต้องการใช้ในประเทศด้านบริโภคและอุตสาหกรรมอื่นประมาณ110,317ตัน 

ทั้งนี้ จากข้อมูลปริมาณการใช้เดือนธ.ค.2566พบว่า มีการใช้น้ำมันดีเซลประมาณ70.41ล้านลิตรต่อวัน ส่วนปริมาณใช้น้ำมันไบโอดีเซลB100ประมาณ4.62 ล้านลิตรต่อวัน และมีปริมาณการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลประมาณ5.09ล้านลิตรต่อวัน

นายวีรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับราคาเอทานอลของไทยอ้างอิงในเดือนม.ค.2567อยู่ที่31.10 บาทต่อลิตร ราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน0.81บาทต่อลิตร ปรับเพิ่มเนื่องจากราคาวัตถุดิบคือกากน้ำตาลและมันสำปะหลังยังคงมีราคาปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานเอทานอลที่ผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน27โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม6.57ล้านลิตรต่อวัน โดยผลิตจริงในเดือนพ.ย.2566อยู่ที่2.54ล้านลิตรต่อวัน มีปริมาณการใช้เอทานอลในภาคเชื้อเพลิงเดือนพ.ย.2566 อยู่ที่3.51ล้านลิตรต่อวัน 

อย่างไรก็ตาม สนพ. จะติดตามสถานการณ์ราคาไบโอดีเซล อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ราคาเชื้อเพลิงชีวภาพสะท้อนกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน

รายงานข่าวจาก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร( สศก.)ระบุว่า ปัจจุบัน ไทยสามารถรักษาระดับราคาผลปาล์มไว้ได้ในช่วง5-6บาทต่อกก. แต่การบริหารจัดการราคาปาล์มทะลายนับจากนี้ มีความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากคาดว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน มี.ค. 2567 จึงต้องเตรียมเพิ่มการส่งออกอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันราคาตกต่ำที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้

สำหรับราคา มันปาล์มดิบภายในประเทศเคลื่อนไหวตามราคาตลาดโลก ในปี 2567 คาดว่าราคาน้ำมันปาล์มอยู่ที่กก.ละ 31.70 บาท และราคาผลปาล์มดิบ กก.ละ 5.70 บาท โดยปัจจัย ที่มีผลสถานการณ์ปาล์มน้ำมันของไทย ด้านบวก คือการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนปัจจัยด้านลบ ยังต้องเฝ้าระวังสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจส่งผลต่อราคาปุ๋ย และราคาน้ำมันดิบ

“ในช่วงเดือนม.ค.- เม.ย. 2566 และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนพ.ย. จนถึงต้นปี 2567 สภาวะเอลนีโญอาจมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอต่อความต้องการของต้นปาล์มน้ำมัน ต้นจึงไม่สมบูรณ์ จำนวนทะลายและน้ำหนักทะลายของปาล์มน้ำมันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ในปี 2567 จึงมีแนวโน้มลดลง”

 ด้านความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคอยู่ที่ 1.38 ล้านตัน ลดลง 2.48 % ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อพลังงานทดแทน 1.01 ล้านตันลดลงจาก 3.34% เนื่องจากในปี 2567 คาดว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ส่งผลกระทบทั้งภาคธุรกิจด้านการบริการร้านอาหาร โรงแรม และธุรกิจด้านคมนาคม ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อบริโภคและเพื่อพลังงานทดแทนลดลง