ไทย – กัมพูชา มุ่งความมั่นคงพลังงาน ดันกลไกเจราจา ‘พื้นที่ทับซ้อน’ สองประเทศ

ไทย – กัมพูชา มุ่งความมั่นคงพลังงาน  ดันกลไกเจราจา ‘พื้นที่ทับซ้อน’ สองประเทศ

“ไทย” –“กัมพูชา” หารือชื่นมื่น เดินหน้าสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ดันกลไกเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพิ่มมูลค่าการค้าแตะ 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2568 พร้อมแก้ปัญหาแรงงาน ตั้งกลไกแก้ปัญหาฝุ่นสองประเทศร่วมกัน  

วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล  สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา และภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ณ ทำเนียบรัฐบาล

โดยภายหลังจากการหารือกันของคณะรัฐมนตรีของไทย และกัมพูชา เต็มคณะ ณ ตึกภักดีบดินทร์ นายกรัฐมนตรีของไทย และ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาแถลงข่าวร่วมกัน โดยมีสาระสำคัญดังนี้

นายเศรษฐากล่าวว่าไทยและกัมพูชายกระดับความสัมพันธ์ความร่วมมือสองประเทศให้ครอบคลุมทุกด้าน ในเชิงยุทธศาสตร์อย่างใกล้ชิด โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าการค้าสองประเทศจาก 8 พันล้านบาทในปีก่อน เป็น 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2568 โดยเน้นในเรื่องของการแก้ปัญหาการค้าข้าม และการอำนวยความสะดวกการค้าระหว่างสองประเทศ

ด้านการค้าขายและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนทวิภาคีให้มากขึ้น โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกการไปมาหาสู่ของประชาชน และการค้าตามแนวชายแดนให้มากขึ้น ลดการอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มนำไปสู่ปริมาณการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาให้มากขึ้น นอกจากนี้ กัมพูชายังขอให้ทั้งสองฝ่ายหารือเพิ่มเติมถึงแนวทางการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษในชายแดนไทยและกัมพูชา บริเวณจังหวัดสระแก้วและปอยเปตของกัมพูชา

ส่วนในเรื่องของความมั่นคงในด้านพลังงานทั้งสองประเทศได้หารือกันถึงการนำเข้าพลังงาน ซึ่งทั้งสองประเทศต่างก็เป็นประเทศที่ต้องมีการนำเข้าพลังงานจำนวนมากในแต่ละปี โดยเฉพาะเชื้อเพลิงธรรมชาติที่เป็นฟอสซิล โดยการหารือกันเรื่องนี้จึงมีความสำคัญมากขึ้น จึงเห็นควรให้มีการหารือในเรื่องแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างสองประเทศ (Overlapping Claims Area: OCA)

 ทั้งนี้ได้หารือกลไกกับกระทรวงการต่างประเทศแล้ว  ซึ่งเห็นควรว่ากลไกในการเจรจา ต้องมี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กองทัพเรือ เข้ามาเป็นหน่วยงานที่หารือกันในประเด็นเรื่องนี้ต่อไปด้วย เพื่อให้มีความครอบคลุมทุกมิติที่จะต้องมีการเจรจากัน

 

 

      

ไทย – กัมพูชา มุ่งความมั่นคงพลังงาน  ดันกลไกเจราจา ‘พื้นที่ทับซ้อน’ สองประเทศ

“ความมั่นคงพลังงาน ทั้งสองฝ่ายต่างมองว่าสถานการณ์โลกปัจจุบันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานของทั้งไทยและกัมพูชา พร้อมตกลงที่จะกระชับความร่วมมือในด้านความมั่นคงด้านพลังงาน มีการตกลงที่จะหารือเพิ่มเติมเพื่อแสวงหาประโยชน์ร่วมกันจากทรัพยากรด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป ”นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าว 

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทยและกัมพูชาเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์และความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติมาอย่างต่อเนื่อง ผู้นำทั้งสองประเทศต่างมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและได้มีการหารือระหว่างกันในหลากหลายโอกาส ซึ่งการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ไทยและกัมพูชาจะได้หารือและติดตามประเด็นความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์ นายกรัฐมนตรีขอบคุณสำหรับการสนับสนุนการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่งไทยตั้งเป้าหมายที่จะเปิดในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 นี้ และพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่กัมพูชาในการเปิดสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ณ จังหวัดสงขลา เช่นเดียวกัน ด้านนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการเปิดสถานกงสุลจะเปิดโอกาสให้ไทยและกัมพูชาได้ส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีร่วมกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ด้านการพัฒนาชายแดนและการท่องเที่ยว ไทยและกัมพูชาต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ซึ่งผู้นำทั้งสองฝ่ายพร้อมทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชนชายแดนทั้งสองฝั่ง ทั้งการประสานความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด การยกระดับจุดผ่านแดนระหว่างกัน รวมทั้งปรับปรุงข้อตกลงว่าด้วยการข้ามพรมแดน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายแดน โดยไทยได้เสนอให้หารือเพิ่มเติม เพื่อประสานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศในภูมิภาค ให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในไทย และท่องเที่ยวต่อไปยังกัมพูชา และประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ได้ในคราวเดียว ด้านนายกรัฐมนตรีกัมพูชาพร้อมให้หารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคร่วมกัน

ด้านความร่วมมือประเด็นหมอกควันข้ามแดน (PM 2.5) ผู้นำไทยและกัมพูชาต่างเน้นย้ำถึงการแก้ปัญหาหมอกควัน เพื่ออากาศที่ดีของประชาชนไทยและกัมพูชา โดยพร้อมแบ่งปันข้อมูลและแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ สนับสนุนการจัดการปัญหาการเผาไหม้ทางการเกษตร พร้อมเสนอให้มีการขยายความร่วมมือต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกันระดับภูมิภาค

 

ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะแก้ไขปัญหาเครือข่ายหลอกลวงทางไซเบอร์ โดยเพิ่มการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ทั้งการป้องกันการลักลอบค้ายาเสพติด สินค้าเถื่อน และการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ โดยผู้นำไทยและกัมพูชายืนยันที่จะการดำเนินการร่วมกันในการกวาดล้างผู้กระทำผิด พร้อมแสวงหาความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพิ่มเติมระหว่างตำรวจไทยและกัมพูชาในการจับกุมผู้กระทำความผิด

ด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยทีให้ความสำคัญกับแรงงานกัมพูชา ในฐานะส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พร้อมขอให้ไทยอำนวยความสะดวกแรงงานกัมพูชาที่ต้องการกลับไปเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งตรงกับปีใหม่ของกัมพูชาด้วย ด้านนายกรัฐมนตรีพร้อมนำไปพิจารณา และเน้นย้ำถึงการดูแลสวัสดิภาพของแรงงานในไทย และยินดีส่งเสริมให้แรงงานกัมพูชาเข้าถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการทางสังคมของไทยด้วย