'บีโอไอ' ชี้ภูมิรัฐศาสตร์โลกขัดแย้ง หนุนลงทุนไทยโตต่อเนื่อง มองปี67 สดใส

นายวิรัตน์ อัชศฤงคารสกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในงานสัมนา "GEOPOLITICS 2024" จุดปะทุสงครามใหญ่ พลิกวิกฤติโลก สู่โอกาสประเทศไทย จัดโดย "กรุงเทพธุรกิจ" วันนี้ (31 ม.ค.) ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งเรื่อง Geopolitics ทำให้เกิดการย้ายฐานของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาการลงทุนของนักลงทุนจากประเทศจีนเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นจนมีสัดส่วน 20 – 30% ซึ่งแนวโน้มในปี 2567 ก็จะยังมีการลงทุนจากจีนและไต้หวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ในส่วนของนักลงทุนประเทศอื่นๆที่ยังเข้ามาลงทุนในไทยก็ยังมีสัดส่วนที่คงที่ เช่น นักลงทุนญี่ปุ่นก็ไม่ได้ลดการลงทุนลงไป แต่ว่าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตขึ้นของการลงทุนเติบโตมาก เช่นรถไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเซมิคอนดักเตอร์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีนักลงทุนจากจีนขอส่งเสริมการลงทุนเข้ามามากกว่าทำให้สัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนจากจีนและไต้หวันเพิ่มมากขึ้น

“ใน 2 ปีที่ผ่านมาการลงทุนของจีนคิดเป็น 20 – 30% ของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งในปีนี้ก็จะยังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอีก ปัจจัยเรื่องของGeopolitics เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับปัจจัยที่จะมีการย้ายการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย แม้ว่าในตอนนี้ประเทศไทยจะมีข้อได้เปรียบลดลงในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากเวียดนามมีแรงงานที่มีค่าแรงต่ำกว่าแต่ประเทศไทยก็มีข้อได้เปรียบในหลายด้าน เช่น เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน แรงงานที่มีทักษะเฉพาะ และมีพลังงานสะอาดที่หลายอุตสาหกรรมเป็นที่ต้องการ ทำให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจที่สามารถดึงการลงทุนในสาขาที่ต้องมีการผลิตโดยใช้พลังงานสะอาดในการลงทุน

ส่วนการสนับสนุนให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศนั้นบีโอไอมีกิจกรรมต่อเนื่องมาหลายปีในการพาผู้ประกอบการไทยไปดูลู่ทางการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในเวียดนาม เมียนมา และอินโดนิเซีย ซึ่งนักลงทุนสามารถติดต่อขอข้อมูลการลงทุนจากสำนักงานบีโอไอได้