ไทม์ไลน์ปิดหนี้ ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ เม.ย.นี้ จ่ายก้อนแรก 2.3 หมื่นล้าน

ไทม์ไลน์ปิดหนี้ ‘รถไฟฟ้าสายสีเขียว’ เม.ย.นี้ จ่ายก้อนแรก 2.3 หมื่นล้าน

เปิดไทมไลน์ กทม.เตรียมจ่ายหนี้ค่าจ้างติดตั้งระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียว “บีทีเอส” เตรียมรับเงินก้อนแรก 2.3 หมื่นล้านบาท เม.ย.นี้

Key Points

  • สภา กทม.เคาะจ่ายหนี้ “บีทีเอส”
  • กทม.เตรียมใช้เงินสะสมจ่ายขาด
  • คาดจ่ายก้อนแรก 2 หมื่นล้าน เม.ย.นี้

 

การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 3) ประจำปีพุทธศักราช 2567 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 โดยมีนายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม พบว่ามีวาระสำคัญพิจารณา เรื่องที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเสนอขอความเห็นชอบ 1 เรื่อง คือ ขอความเห็นชอบใน โครงการรับมอบงานทรัพย์สินระบบการเดินทาง (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2

ซึ่งเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจาก ค่าจ้างติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงที่ 2 (แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS เป็นคู่สัญญา โดยมีค่าจ้างงานอยู่กว่า 2 หมื่นล้านบาท และครบกำหนดต้องชำระ

โดยภายในการประชุมสภาครั้งนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) ได้เสนอญัตติ ขอความเห็นชอบในโครงการการรับมอบงานทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 และที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบโครงการฯ ตามที่ผู้ว่าฯ กทม.เสนอ และจะได้ส่งให้ฝ่ายบริหารพิจารณาดำเนินการต่อไป

ขณะที่บางช่วงของการเสนอญัตติดังกล่าว มีการระบุถึงความจำเป็นเร่งด่วนของการจ่ายค่าจ้างส่วนนี้ว่า กรุงเทพมหานครเห็นว่าทรัพย์สินงานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ถือว่ามีความสำคัญ หน่วยงานภาครัฐควรเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวถือเป็นหัวใจสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้รถไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อน และให้บริการเดินรถได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ขึ้นว่าเอกชนรายใดจะเป็นผู้ให้บริการเดินรถ และหากกรุงเทพมหานครได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้วจะทำให้เอกชนอ้างสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้ และปัจจุบันทรัพย์สินนั้นได้ติดตั้งแล้วเสร็จและครบกำหนดชำระแล้ว

นอกจากนี้ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้เจรจาต่อรองกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยกำหนดเงื่อนไขหากชำระภายในวันที่ 4 เม.ย.2567 จะมีกรอบวงเงินรวมจำนวน 23,488,692,165.65 บาท ประกอบกับแนวทางการร่วมลงทุนที่กรุงเทพมหานครดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 ลงวันที่ 11 เม.ย.2562 ยังไม่มีความชัดเจนและยังไม่ได้ข้อยุติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งอาจทำให้เกิดการฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้

รวมถึงคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สภากรุงเทพมหานคร ได้ศึกษาแล้วเห็นว่างานติดตั้งระบบการเดินรถ (E&M) เป็นทรัพย์สินที่สามารถแยกออกมาดำเนินการได้ ซึ่งปัจจุบันได้ถึงกำหนดชำระเงินแล้ว หากไม่มีการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้จะเกิดภาระดอกเบี้ยและค่าปรับจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี กระบวนการหลังจากสภา กทม.พิจารณาเห็นชอบในครั้งนี้ ต้องรอปรับปรุงความคิดเห็นของสภาฯ ก่อนออกข้อบัญญัติเพื่อของบประมาณเพิ่มเติม ทั้งนี้แหล่งเงินที่ กทม.จะนำมาชำระค่าจ้างแก่เอกชนนั้น จะใช้เงินสะสมจ่ายขาดเพื่อโอนทรัพย์สินจ่ายค้าจ้างงานส่วนนี้ ซึ่งปัจจุบัน กทม.มีเงินสะสมจ่ายขาดปลอดภาระหนี้ประมาณ 51,200 ล้านบาท

ไทม์ไลน์การชำระค่าจ้าง E&M ตามที่สภา กทม.รับหลักการร่างข้อบัญญัติในวันที่ 17 ม.ค.2567 ประเมินว่าจะมีกระบวนการหลังจากนี้ ประกอบด้วย

17 มี.ค.2567

  • ผู้ว่าเสนอให้สภา กทม.เห็นชอบรับหลักการร่างข้อบัญญัติ และแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญ

ภายใน 1 มี.ค.2567 สมัยประชุม 2/2567

  • คณะกรรมการวิสามัญนำเสนอสภา กทม.เห็นชอบร่างข้อบัญญัติ

ภายใน 8 มี.ค.2567

  • ประธานสภา กทม.ส่งร่างข้อบัญญัติไปยังผู้ว่าฯ กทม.

ภายใน 8 เม.ย.2567

  • ผู้ว่าฯ ลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ภายใน 9 เม.ย.2567

  • กทม.เบิกเงินชำระให้แก่ BTSC