OR ชะลอส่งออกดีเซล รับมือ 'ไทยออยล์' ชัตดาวน์โรงกลั่น 

OR ชะลอส่งออกดีเซล รับมือ 'ไทยออยล์' ชัตดาวน์โรงกลั่น 

"OR" ชะลอการส่งออกน้ำมันดีเซล รับมือหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ของโรงกลั่นไทยออยล์มีการหยุดซ่อมบำรุง เป็นระยะเวลา 13 วัน ย้ำ ปริมาณน้ำมันในไทยไม่ขาดแคลน

นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า จากกรณีหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ของโรงกลั่นไทยออยล์ของ บริษัท ไทยออยล์จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มีการหยุดซ่อมบำรุงเป็นระยะเวลา 13 วัน ระหว่างวันที่ 16 – 28 ม.ค. 2567 นี้ 

อย่างไรก็ตาม ทางกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้ให้ผู้ค้าน้ำมันทบทวนการส่งออกน้ำมันดีเซล ในช่วงที่หน่วยกลั่นที่ 3 ของไทยออยล์ปิดซ่อมบำรุง ทาง OR ก็ได้ชะลอการส่งออกน้ำมันดีเซลในช่วงนี้เชนกัน โดยปกติก็มีปริมาณส่งออกไม่มากนัก ขณะเดียวกัน OR ยังดูปริมาณการใช้ และบริหารจัดการแผนสำรองน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน (JET A1) และดีเซลให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งยืนยันว่าเพียงพออย่างแน่นอน

ด้านนายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ของโรงกลั่นไทยออยล์มีการหยุดซ่อมบำรุง เป็นระยะเวลา 13 วันดังกล่าว ทางกรมธุรกิจพลังงานได้ประชุมหารืออย่างต่อเนื่องในวันที่ 16-17 ม.ค. 2567 ร่วมกับบริษัท ไทย ออยล์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันทุกแห่ง และผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เพื่อติดตามสถานการณ์ 

พร้อมกับเตรียมมาตรการป้องกันและแก้ไขการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยพบว่าจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมันอากาศยาน (JETA1)110 ล้านลิตร น้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว 240 ล้านลิตร น้ำมันกลุ่มเบนซิน 60 ล้านลิตร และก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) 15 ล้านกิโลกรัม 

ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวพบว่า บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และผู้ค้าน้ำมันสามารถจัดหาน้ำมันกลุ่มเบนซินน้ำมันอากาศยาน (JET A1)และLPG ได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศโดยไม่มีผลกระทบ โดยสำหรับน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว การจัดหาค่อนข้างตึงตัวในช่วงแรกกรมธุรกิจพลังงานจึงได้สั่งการให้ผู้ค้าน้ำมันห้ามส่งออกน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว 

ยกเว้นกรณีจำเป็นตามสัญญาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วภายในประเทศให้เพียงพอต่อความต้องการใช้รวมถึงเร่งนำน้ำมันสำรองตามกฎหมายกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว ออกมาจำหน่ายได้ในปริมาณไม่เกินกว่าร้อยละ 20 ของปริมาณสำรองตามกฎหมายที่มีหน้าที่ต้องเก็บสำรอง ส่งผลให้มีน้ำมันเพียงพอต่อความต้องการใช้ของประเทศ นอกจากนี้ กรมจะติดตามและประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดจึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการขาดแคลนน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็ว