‘มนพร’ ประสาน สส. 3 พรรครัฐบาล 4 จังหวัด ร่วมดันเมกะโปรเจ็กต์ ‘แลนด์บริดจ์’

‘มนพร’ ประสาน สส. 3 พรรครัฐบาล 4 จังหวัด ร่วมดันเมกะโปรเจ็กต์ ‘แลนด์บริดจ์’

‘มนพร’ เผยประสาน สส. 3 พรรคร่วมรัฐบาล 4 จังหวัด ร่วมดันเมกะโปรเจ็กต์ ‘แลนด์บริดจ์’ เร่งรับฟังความเห็นประชาชนในพื้นที่ ก่อนยกร่าง พ.ร.บ.SEC

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) เปิดเผยว่า วันที่ 12 ม.ค.2567 กมธ.แลนด์บริดจ์ จะสรุปรายละเอียดการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ก่อนนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ

รวมทั้ง ภายหลังที่ กมธ.แลนด์บริดจ์ สรุปการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการยกร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้

ทั้งนี้จะมีลักษณะเดียวกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กำกับดูแลโครงการ รวมทั้งมี พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561

ส่วนการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำโครงสร้างพื้นฐานของโครงการแยกไปจัดทำ ทั้ง ด้านสิ่งแวดล้อม จัดทำโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ด้านการพัฒนาระบบราง จัดทำโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และด้านการพัฒนามอเตอร์เวย์ จัดทำโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)

นางมนพร กล่าวว่า ในอีกด้านหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ 4 จังหวัด คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช นั้น จะมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อพูดคุยทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและกลุ่มที่ยังเห็นต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ที่ยังพบว่ามีผู้คัดค้านโครงการอยู่

ขณะเดียวกันยังได้ประสานให้ สส.ที่อยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัด ซึ่งเป็น 3 พรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ช่วยกันลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่โครงการแลนด์บริดจ์ด้วย

รวมทั้ง ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้ในหลายด้านโดยเฉพาะเรื่องการลงพื้นที่ทำความเข้าใจพบปะพูดคุยกับคนในพื้นที่ให้เห็นถึงความสำคัญ และยังเป็นการเตีรยมความพร้อมเอาไว้ก่อนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำคณะลงพื้นที่เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.สัญจร ที่จังหวัดระนองช่วงวันที่ 22-23 ม.ค.2567

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2567 นางมนพร และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน กมธ.แลนด์บริดจ์ ลงพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย จากโครงการแลนด์บริดจ์ของประชาชนในพื้นที่ โดยได้ลงพื้นที่บริเวณแหลมริ่ว ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งจะมีการถมทะเลเนื้อที่ 6,000 ไร่ เพื่อก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทย

นอกจากนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รายงานว่าโครงการแลนด์บริดจ์ จะใช้เงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการสร้างท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 ฝั่งทะเล ทั้งในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร มีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และทางหลวงพิเศษหรือมอเตอร์เวย์ และท่อส่งน้ำมัน จากนั้นก็จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้าร่วมเวทีในครั้งนี้ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น