กนอ.เคลียร์ ‘อีสต์วอเตอร์-วงษ์สยาม’ รับมือเปลี่ยนผู้บริหารท่อน้ำ ‘อีอีซี’

กนอ.เคลียร์ ‘อีสต์วอเตอร์-วงษ์สยาม’ รับมือเปลี่ยนผู้บริหารท่อน้ำ ‘อีอีซี’

กนอ.รับกังวัลช่วงเปลี่ยนผ่านผู้บริหารท่อส่งน้ำอีอีซี เรียกหารืออีสต์วอเตอร์-วงษ์สยาม เคลียร์ประเด็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งสองฝ่ายแจงยินดีอะลุ่มอล่วยเพื่อประโยชน์ผู้ใช้น้ำ ประเมินราคาน้ำไม่ขยับขึ้น เอกชนเริ่มแข่งขันราคา ผู้ใช้น้ำได้ประโยชน์ระยะสั้น-กลาง

การบริหารท่อส่งน้ำภาคตะวันออกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนผู้บริหารจาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ มาเป็น บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสิทธิการบริหารท่อน้ำภาคตะวันออกจากกรมธนารักษ์รายใหม่

สำหรับอีสท์ วอเตอร์ ได้เข้าทำสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกความยาว 135.9 กิโลเมตร กับกระทรวงการคลัง มาตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2536 กำหนดระยะเวลา 30 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้อีสท์วอเตอร์ เข้าบริหารระบบท่อส่งน้ำและเก็บค่าน้ำดิบ

ล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค.2566 กรมธนารักษ์ และอีสท์ วอเตอร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์สินโครงการที่จะส่งมอบ และในวันที่ 31 ธ.ค.2566 กรมธนารักษ์ และอีสท์ วอเตอร์ ได้ลงนามบันทึกส่งมอบ-รับมอบระบบท่อส่งน้ำ ตามสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ได้ดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินคืนแก่กรมธนารักษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2567 กรมธนารักษ์ได้มีการลงนามบันทึกการรับมอบ-ส่งมอบทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลัง โครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย ให้กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้บริหารรายใหม่ ประกอบด้วย 

1.โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย-มาบตาพุด ซึ่งทรัพย์สินประกอบด้วย สถานีสูบน้ำดอกกราย,ถังยกระดับน้ำ (มาบข่า) ท่อเหล็ก ขนาด 1,350 มิลลิเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบ 26.50 กิโลเมตร 

2.โครงการท่อส่งน้ำมาบตาพุด-สัตหีบ ประกอบด้วย ถังยกระดับน้ำ (มาบตาพุด) บ่อรับน้ำดิบ, สระรับน้ำดิบ, สถานีสูบน้ำมาบตาพุด ท่อเหล็ก ขนาด 900 มิลลิเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบ 8.20 กิโลเมตร, สถานีสูบน้ำมาบตาพุด ท่อเหล็ก ขนาด 700 มิลลิเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบ 14.30 กิโลเมตร 

3.โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 1) จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วยบ่อรับน้ำแหลมฉบัง , ท่อเหล็ก ขนาด 1,000 มิลลิเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบ 10.60 กิโลเมตร ,ท่อเหล็ก ขนาด 900 มิลลิเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบ 4.40 กิโลเมตร และท่อเหล็ก ขนาด 600 มิลลิเมตร พร้อมอุปกรณ์ประกอบ 14.90 กิโลเมตร

ส่วนโครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) อีสท์ วอเตอร์ ส่งมอบทรัพย์สินให้กรมธนารักษ์ แล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2566 และกรมธนารักษ์ส่งมอบให้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด วันที่ 12 เม.ย.2566

กนอ.เคลียร์ ‘อีสต์วอเตอร์-วงษ์สยาม’ รับมือเปลี่ยนผู้บริหารท่อน้ำ ‘อีอีซี’

วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์, กรมชลประทาน, บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์, บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด, บริษัท โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด (GUSCO) และนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก

สำหรับการหารือดังกล่าวครอบคลุมถึงการส่งมอบท่อส่งน้ำระหว่างกรมธนารักษ์ และบริษัท อีสท์ วอเตอร์ รวมถึงการส่งมอบท่อส่งน้ำในพื้นที่ทับซ้อน ทั้งในส่วนของอีสท์ วอเตอร์ และบริษัทวงศ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด ที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อให้การบริหารจัดการส่งน้ำในพื้นที่ไม่เกิดปัญหา มีน้ำใช้อย่างต่อเนื่อง

รวมทั้ง มีการทดสอบระบบการจ่ายน้ำก่อนการส่งมอบทั้งกับผู้ให้บริการรายเดิมและผู้ให้บริการรายใหม่ ซึ่งพอถึงวันที่ 31 ธ.ค.2566 ที่มีการเปลี่ยนผ่าน ไม่พบปัญหาการจ่ายน้ำ โดยภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

“ทุกฝ่ายเล็งเห็นความสำคัญของผู้ใช้น้ำ ทั้งสองบริษัทจึงยินดีละลุ่มอล่วยและร่วมมือกันบริหารจัดการน้ำ แม้ว่าจะยังมีพื้นที่ทับซ้อนและบางพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยอาจมีการซื้อ-ขายน้ำระหว่างกัน หากจำเป็น”

ขณะเดียวกัน กนอ.ได้เตรียมการแหล่งน้ำสำรองสำหรับภาคอุตสาหกรรม ปริมาณ 1.4-1.5 แสนลูกบาศก์เมตร รวมทั้งเตรียมการบริหารความเสี่ยงการจัดการน้ำของผู้ประกอบการกิจการน้ำให้มีปริมาณสำรองน้ำ 20% ของปริมาณน้ำที่ขายทั้งปี เพื่อรับมือช่วงภัยแล้ง และสร้างความมั่นใจให้ภาคอุตสาหกรรมทั้งผู้ประกอบการในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศ

สำหรับอัตราค่าน้ำคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากปัจจุบันสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปแข่งขันได้จากเดิมที่เป็นแบบผูกขาด เริ่มมีผู้ให้บริการแข่งขันกัน 2-3 ราย คาดว่าผู้ใช้น้ำจะได้ประโยชน์ในระยะสั้น-กลาง เพราะหากมีรายใดรายหนึ่งขึ้นราคา ผู้ใช้น้ำสามารถเปลี่ยนไปใช้อีกเจ้าได้

“เรายืนยันมาตลอดว่า กนอ.ยืนเคียงข้างผู้ใช้น้ำ และผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม สิ่งที่ กนอ.ปกป้องคือผลประโยชน์ของผู้ใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรม" 

รวมทั้งจากการประชุมที่ผ่านมาดังกล่าวทุกฝ่ายเองก็พร้อมใจกันป้องกันผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเห็นได้จากสถานการณ์การส่งน้ำในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ยังคงมีน้ำใช้อย่างต่อเนื่องและไม่สะดุด ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกับชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม