'สุรพงษ์' สั่ง บขส.พร้อมรับเดินทางปีใหม่ คาดผู้โดยสารพุ่ง 7 หมื่นคนต่อวัน

'สุรพงษ์' สั่ง บขส.พร้อมรับเดินทางปีใหม่ คาดผู้โดยสารพุ่ง 7 หมื่นคนต่อวัน

“สุรพงษ์” สั่ง บขส.เตรียมพร้อมรับเดินทางปีใหม่ 2567 คาดผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้น 5% กลับภูมิลำเนาไม่ต่ำกว่า 70,000 คนต่อวัน จัดรถโดยสารรองรับกว่า 4,000 เที่ยว มั่นใจเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ประชุมแผนปฏิบัติการเดินรถวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ในเทศกาลปีใหม่ ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีวันหยุดติดต่อกัน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2566 - วันที่ 1 มกราคม 2567

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้ผลักดันนโยบายเชื่อมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ระหว่างรถไฟ รถไฟฟ้า รถ บขส. และรถ ขสมก. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้โดยสารรถ บขส. ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เข้ากรุงเทพฯ สามารถเลือกเดินทางเชื่อมต่อได้ทั้งที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร)

อีกทั้ง ยังได้กำชับให้ บขส. บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม จัดรถโดยสารให้เพียงพอ ต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้างในการเดินทาง รวมทั้งให้จัดมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยของรถโดยสาร พนักงานขับรถ และให้สถานีขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนตลอดเทศกาลปีใหม่ ให้ได้รับบริการที่มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

\'สุรพงษ์\' สั่ง บขส.พร้อมรับเดินทางปีใหม่ คาดผู้โดยสารพุ่ง 7 หมื่นคนต่อวัน

ด้านนางสาวระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า บขส. คาดการณ์ว่าในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ จะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากเทศกาลปีใหม่ 2566 ประมาณ 5% โดยในเที่ยวไป ระหว่างวันที่ 27–29 ธันวาคม 2566 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 70,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,000 เที่ยว

ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 2-3 มกราคม 2567 คาดว่ามีผู้โดยสารเดินทาง เฉลี่ยวันละ 60,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 3,800 เที่ยว และได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถทะเบียน 30) มาจัดวิ่งเสริมในเส้นทางต่างๆ ประมาณ 700 คัน จึงมั่นใจมีรถโดยสารเพียงพอรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างแน่นอน

สำหรับ การจองตั๋วโดยสาร ผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันที่ 28 – 29 ธันวาคม 2566 สามารถจองตั๋วโดยสารได้ที่หน้าช่องจำหน่ายตั๋ว โดย บขส. และรถร่วมบริการ มีการจัดการเดินรถตลอดทั้งวัน ส่วนผู้โดยสารที่ประสงค์จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า เพื่อมอบของขวัญปีใหม่ของกระทรวงคมนาคม ผู้โดยสารที่จองตั๋ว บขส. ผ่านช่องทางออนไลน์ และเดินทางในวันนี้ - 22 ธันวาคม 2566 หรือระหว่างวันที่ 4-8 มกราคม 2567 จะได้รับส่วนลด 20 % (เฉพาะค่าโดยสารไม่รวมค่าธรรมเนียม)

ขณะที่การเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 บขส. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก ในการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ก่อนเดินทางทุกคันทุกคน ตาม Checklist และจุด Checking Point , การรถไฟแห่งประเทศไทย, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ  ในการจัดการเดินทางเชื่อมต่อรถไฟ รถทัวร์ รถเมล์ , กองบังคับการตำรวจจราจร , สน.บางซื่อ, สน.ตลิ่งชัน และ สน.ทองหล่อ สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจร บริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ทั้ง 5 แห่ง, และตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์สารเสพติดของพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจรถโดยสารบนทางหลวงสายหลัก เป็นต้น

นอกจากนี้ ได้กำชับให้ฝ่ายธุรกิจเดินรถ บขส. และผู้ประกอบการรถร่วมฯ ดูแลมาตรการด้านความปลอดภัยของรถโดยสารและพนักงานขับรถอย่างเข้มงวด และเน้นย้ำให้มีการเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง และขอความร่วมมือผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทางด้วย

“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่จะถึงนี้ ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถโดยสาร ที่สถานีขนส่งฯ ก่อนเวลารถออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง รวมทั้งขอให้ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วและให้ตรวจสอบข้อมูลในตั๋วโดยสาร เช่น เส้นทาง , เวลารถออก , จุดขึ้นรถทุกครั้ง นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการรถร่วมฯ ติดป้ายแสดงราคาค่าโดยสารที่หน้าช่องขายตั๋วให้ชัดเจน เพื่อแจ้งให้ผู้โดยสารทราบและป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสาร หากพบปัญหาในการเดินทางให้แจ้งได้ที่บริเวณจุดประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 และชั้น 3 สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) และที่จุดประชาสัมพันธ์ ณ สถานีขนส่งฯ ทั่วประเทศ”