ส่องโจทย์ส่งออกไทยปีมังกร 2567 เติบโตได้ 2 %

ส่องโจทย์ส่งออกไทยปีมังกร 2567 เติบโตได้ 2 %

ส่งออกไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว พร้อมเดินหน้าเติบโตในปี 2567 ท่ามกลางโจทย์เศรษฐกิจโลกที่คาดเดาได้ยาก กูรูด้านเศรษฐกิจ ประสานเสียงแม้เจอมรสุมแต่มั่นไจส่งออกไทยผ่านได้พร้อมโตได้ 2 %

วงเสวนาสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยหรือ สรท. ในหัวข้อ”วิเคราะห์ส่งออกปีมังกร 2567 สดใสหรืออ่อนแรง”เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กูรูนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจและการค้าของไทย ได้ให้ความเห็นถึงสถานการณ์การส่งออกไทยในปี 2567 หรือปีมังกร โดยเห็นตรงกันว่า ปี67 น่าจะเป็นปีที่ส่งออกไทยจะกลับมาเป็นพระเอกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อีก คาดว่า ส่งออกไทยจะกลับมาเป็นบวกได้ไม่น้อยกว่า 2 %

จากสัญญาณการส่งออกของไทยที่กลับมาเป็นบวกได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกในเดือน ต.ค.ขยายตัวพุ่ง 8 % มีมูลค่า 23,578.8 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 13 เดือน นับจากเดือนก.ย.2565 และคาดว่าใน 2 เดือนที่เหลือของปีนี้คือ เดือนพ.ย.และธ.ค.ก็ยังคงเป็นบวก และจะส่งโมเมนตัมนี้ต่อเนื่องไปยังปี 67

“การส่งออกของไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วและจะเติบโตเป็นบวกได้ แม้ปัจจัยภายนอกจะกระทบรุนแรง คาดเดาได้ยาก  โดยพร้อมที่จะเดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2567 เราคาดว่าการส่งออกปีหน้า จะขยายตัวได้ราว 1-2% โดยมีสินค้าเกษตร อาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ทั้งนี้ต้องรักษาตลาดเดิมเร่งเสริมตลาดใหม่ ลดต้นทุนลงทุน เร่งทำเอฟทีเอ  สร้างระบบเชื่อมต่อการขนส่งใหม่ๆ” นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) ระบุ

ส่องโจทย์ส่งออกไทยปีมังกร 2567 เติบโตได้ 2 %

สอดคล้องกับความเห็นของ นางสาวอานันท์ชนก สกนธวัฒน์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า  สภาพัฒน์ฯ ประเมินอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีโลกปี 67 จะขยายตัว 2.7 % การค้าโลกขยายตัว 3.2 % ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกของไทยในปี 67  โดยประเมินว่าการส่งออกไทยจะขยายตัว 3.8 % ปัจจัยสำคัญมาจากการกลับมาขยายตัวของมูลค่าและปริมาณการส่งออกสินค้าไทยที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มปริมาณการค้าโลกที่เริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัวสะท้อนจากดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมสำหรับยอดคำสั่งซื้อใหม่และแนวโน้มขาขึ้นของวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 

มองว่า ปี 67 ส่งออกจะกลับมาเป็นพระเอกได้แต่ต้องเร่งทำเอฟที การใช้ประโยชน์จากความร่วมมือในภูมิภาค เช่น อาร์เซ็ป สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือกฎระเบียบทางการค้า มาตรการสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำมาใช้ในหลายประเทศ  เช่นมาตรการซีแบม “นางสาวอานันท์ชนก 

อย่างไรก็ตาม นายชัยชาญ ยังมองว่า แม้การส่งออกไทยจะมีสัญญาณที่ดีในปีมังกร แต่การส่งออกของไทยยังต้องเผชิญความท้าทายจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยโลกที่ยังทรงตัวในระดับสูง รวมทั้งกฎระเบียบทางการค้าต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ เช่น มาตรการซีแบม  กฎระเบียบที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) ซึ่งล้วนแต่เป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (NTB) ที่ผู้ส่งออกของไทยจะต้องทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านั้น

ขณะที่นายกิตติภูมิ พงษ์สุรพิพัฒน์ ผู้บริหารส่วนวิจัยต่างประเทศ ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย( EXIM Bank )สะท้อนความเห็นไปในทิศทางเดียวกับผู้ส่งออกในประเด็นที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการการส่งออกไทยในปีหน้า โดยเฉพาะสงคราม อิสราเอล-กลุ่มฺฮามาส  หากลุกลามเป็นความไม่สงบในภูมิภาค สถานการณ์รัสเซีย- ยูเครน ความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน   การเลือกตั้งของประเทศสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น สหรัฐ อินเดีย ไต้หวัน และปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ ของเวียดนามส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่พี่ต้องการจัดการความเสี่ยงทั้งการส่งออกและการเงิน

โดยสรุปผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจไทยได้สะท้อนมุมมองการส่งออกของไทยบนเวทีสัมมนาสรท.ว่าการส่งออกของไทยปีหน้ายังอยู่ในเส้นทางที่สามารถเติบโตได้แต่ต้องเจออุปสรรคเพียบ โดยเฉพาะปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ มาตรการกีดกันทางการค้า กระทบเศรษฐกิจส่งออกไทยจะต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับโจทย์เศรษฐกิจโลกที่ยากขึ้นเพื่อลดผลกระทบและพร้อมเดินหน้าแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับส่งออกไทย