ปตท. เดินเครื่องแล้ว ผลิตอาหารแพลนต์เบสล็อตแรกรายใหญ่สุดในไทย  

ปตท. เดินเครื่องแล้ว ผลิตอาหารแพลนต์เบสล็อตแรกรายใหญ่สุดในไทย  

"อินโนบิก" กลุ่มปตท. เจาะตลาดแพลนต์เบสใหญ่สุดเจ้าแรกในไทย เปิดโรงงาน Plant & Bean เฟสแรก กำลังผลิต 3 พันตัน ตั้งเป้าผลิตเต็มกำลัง 25,000 ตัน ใน 5 ปี  

นายบุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชม โรงงานโรงงาน แพลนท์ แอนด์ บีน (ประเทศไทย) ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกในอาเซียน   

นายบุรณิน กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตทั้งในประเทศและต่างประเทศเจ้าแรกในอาเซียนและเจ้าที่ 2 ในเอเชีย รองจากอินเดีย ด้วยมาตรฐานฮาลาลและมาตรฐานความปลอดภัยอาหารสากลจากสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (The British Retail Consortium : BRC) ซึ่งอยู่ระหว่างการรับรอง   

ปตท. เดินเครื่องแล้ว ผลิตอาหารแพลนต์เบสล็อตแรกรายใหญ่สุดในไทย  

“ตั้งเป้าว่าจะเป็นโรงงานผลิตอาหารโปรตีนจากพืช 100% แห่งแรกในประเทศไทยและขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 25,000 ตัน โดยในระยะแรกจะผลิตประมาณ 70% ของกำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี เและภายหลังได้รับมาตรฐาน BRC จะเริ่มส่งออกให้กับบริษัทในยุโรปและสหรัฐฯ  รวมถึงยังเตรียมศึกษาและพัฒนาสูตรเพื่อเจาะตลาดอินเดียต่อไปในอนาคต” 
 
สำหรับ การก่อสร้างในระยะที่สองจะใช้งบลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท โดยปัจจุบันจะดูกระแสตอบรับของโรงงานระยะแรกก่อนว่าเป็นไปตามเป้าหรือไม่ ก่อนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น  13,000 ตันต่อปี และจากนั้นภายใน 5 ปี ถึงขยายโรงงานระยะที่สามเป็น 25,000 ตัน โดยคาดว่าจะดำเนินการตามเป้าหมายนี้ได้ภายใน 5 ปี   

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ กลุ่มอาหารพร้อมปรุง (Ready to cook) เช่น เนื้อสับ  มีทบอล และกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to eat) เช่น ไส้กรอก นักเก็ต และเกี๊ยวซ่า ซึ่งนอกจากจุดแข็งด้านประสิทธิภาพการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีระดับโลกให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อสัมผัส รสชาติ และรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง อร่อย ทานง่ายแล้ว  
 
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยังมาจากพืชที่ไม่ได้รับการตัดต่อสารพันธุกรรม (Non-GMO) และมีโปรตีนสูง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนานวัตกรรมอาหารให้เหมาะแก่การดูแลสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคอาหารโปรตีนจากพืชมากขึ้น รวมถึงช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรได้ประมาณ  5-10 เท่า จากราคาเดิม 

ปตท. เดินเครื่องแล้ว ผลิตอาหารแพลนต์เบสล็อตแรกรายใหญ่สุดในไทย  

“แม้ช่วงแรกเราจะนำเข้าถั่วเหลืองเข้ามาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตประมาณ 25% แต่ในอนาคตเราก็มีแผนที่จะนำสินค้าเกษตรของไทยมาใช้เป็น plant-based อาทิ เม็ดขนุน ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและทำวิจัย  รวมถึงจะสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้นำองค์ความรู้และนวัตกรรมจากโรงงาน แพลนท์ แอนด์ บีน ไปต่อยอดทำเป็นเมนูอาหารไทยที่หลากหลาย อาทิ แกงเขียวหวาน ซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหารของไทย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี” 

นอกจากนี้ ยังได้มีความร่วมมือกับผู้ผลิตอาหารแห่งอนาคตของไทย ในการพัฒนานวัตกรรมอาหาร โดยมีเป้าหมายในการเป็นตัวสร้างความต้องการให้เกิดปริมาณการผลิตจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงการดึงเอาวัตถุดิบในประเทศมาต่อยยอดการผลิตในอนาคต เพิ่มศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารอนาคต เพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพของคนไทย  

จากการสำรวจของเว็บไซด์ Good Food Institute พบว่า ในปี 2565 มีกำลังการผลิต plant-based ทั่วโลกรวมอยู่ที่ 2.2 แสนล้านตันต่อปี  โดยเฉพาะประเทศทางฝั่งยุโรปและอเมริกาเหนือที่มีสัดส่วนตลาดมากถึง 75% ขณะที่ตลาดเอเชียแปซิฟิกกลับมีเพียง 18% รวมถึงปริมาณการบริโภค plant-based ทั่วโลก คิดเป็น 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีอัตราการเติบโตระหว่างปี 2566-2571 อยู่ที่ 6.35% ขณะที่ตลาดเนื้อสัตว์เติบโตขึ้นเพียง 3.2% เท่านั้น จึงเป็นโอกาสสำคัญของเราที่จะเจาะตลาด plant-based ในภูมิภาคอาเซียนที่ถือว่าเป็น  Blue Ocean นี้  

ปตท. เดินเครื่องแล้ว ผลิตอาหารแพลนต์เบสล็อตแรกรายใหญ่สุดในไทย  

นอกจากนี้ ตลาด plant-based ในไทยก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีเฉพาะกลุ่มวีแกนหรือในช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้น แต่ตอนนี้ plant-based กลายเป็นอีกทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่รักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทำให้ตลาดในไทยมีแนวโน้มขยายตัวปีละ 6-7%

"การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม อย่าง ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช (plant-based) ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของบริษัทเอ็นอาร์พีที หรือ NRPT ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง อินโนบิก-เอ็นอาร์เอฟ (NRF) ในการพัฒนาเพื่อรองรับตลาดอาหารอนาคต"