กกร. ยอมถอย ขึ้นราคาน้ำตาลทราย หน้าโรงงาน 2 บาท เลิกคุมราคาขายปลีก และส่งออก

กกร. ยอมถอย ขึ้นราคาน้ำตาลทราย หน้าโรงงาน 2 บาท เลิกคุมราคาขายปลีก และส่งออก

กกร.ถกด่วน หลังครม.มีมติไฟเขียวขึ้นราคาน้ำตาล กก.ละ 2 บาท ไฟเขียว ขึ้นราคาน้ำตาลทราย หน้าโรงงาน 2 บาทต่อ กก.สั่งยกเลิกคุมราคาขายปลีก และควบคุมการส่งออก ด้าน สอน.ยัน สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ไม่ขาดแคลนแน่นอน

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้เรียกประชุม กกร. เป็นการเร่งด่วน และมอบหมายให้นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายกิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท  ซึ่งที่ประชุมยังคงให้น้ำตาลทราย เป็นสินค้าที่อยู่ในบัญชีควบคุมตามเดิม และมีมติให้ปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน 2 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ตามมติ ครม. โดยราคาน้ำตาลทรายขาว ปรับจาก 19 บาทต่อกก. เป็น 21 บาทต่อกก.ส่วนน้ำทรายขาวบริสุทธิ์ ปรับจาก 20 บาทต่อกก. เป็น 22 บาทต่อ

ส่วนราคาขายปลีก ไม่ได้กำหนด แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน อย่างกรณีของห้างค้าปลีก ค้าส่งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ควรขายไม่เกินกก.ละ 26-27 บาท ส่วนร้านโชห่วย ร้านค้าทั่วไป ร้านค้าในตลาดสด ราคาขายปลีกขึ้นอยู่กับช่วงของการรับซื้อ ถ้ารับมาหลายต่อ ราคาก็จะสูงขึ้น หรือขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้-ไกลสำหรับการขนส่ง หากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ราคาขายปลีกก็อาจสูงขึ้น

 

ขณะที่การส่งออก  เดิมกำหนดให้การส่งออกตั้งแต่ 1,000 กก. ขึ้นไป จะต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน ปรับเป็นไม่ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในแล้ว เพียงแค่ให้แจ้งปริมาณส่งออก และปริมาณน้ำตาลคงเหลือในสต็อก เพื่อให้กรมการค้าภายในสามารถติดตามดูแลปริมาณน้ำตาลในประเทศ ไม่ให้เกิดการขาดแคลน โดยจะประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีน้ำตาลเพียงพอในการใช้ในประเทศทั้งนี้ คาดว่า ประกาศฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 15 พ.ย.นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ในที่ประชุม สอน. ได้ยืนยันว่าน้ำตาลทรายในประเทศ ไม่ขาดแคลนแน่นอน และสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากนี้ ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะส่งเจ้าหน้าที่ ทั้งจากกรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบสถานการณ์การค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค และการกักตุน หรือปฏิเสธการขาย โดยหากพบผู้ค้ารายใดกักตุน หรือปฏิเสธการขาย หรือขายราคาสูงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 

สำหรับกรณีที่ชาวไร่อ้อย ระบุก่อนหน้านี้ว่า หลังจาก ครม. ให้ปรับขึ้นราคา กก. ละ 2 บาท หลังจากนั้น อาจให้ปรับขึ้นอีก กก. ละ 2 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนจริงที่เพิ่มขึ้นนั้น หากเป็นเช่นนั้นจริง สอน. ต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์ก่อน ตามมติ ครม. ที่กำหนดให้ก่อนปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรมต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพประชาชนทั่วประเทศ