ครม.ไฟเขียวขึ้นราคาน้ำตาล 2 บาท/กิโลกรัม

ลุ้น ครม.เคาะงบ 5.6 หมื่นล้าน จ่ายค่าเก็บเกี่ยวข้าวปีการผลิต 66/67 ให้กับเกษตรผู้ปลูกข้าว 4.68 ล้านครัวเรือน ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน ติดตามกับผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี คัชฑาพงศ์ ลีลาพงศ์ฤทธิ์ รายงานสดจากทำเนียบรัฐบาล

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเพื่อพิจารณาขึ้นราคาน้ำตาลทราย ทั้งราคาส่ง และขายปลีก ตามมติของคณะกรรมการบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล จำนวน 2 บาทต่อกิโลกรัมว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ปรับขึ้นราคา 2 บาทตามต้นทุนที่มีการปรับตัว หลังจากที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ได้หารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือจนได้ข้อสรุปตามต้นทุนของเกษตรกรชาวไร่อ้อยแล้ว

ส่วนอีกส่วน 2 บาทที่มีการขอขึ้น เพื่อนำเงินเข้ากอทุนดูแลสิ่งแวดล้อมนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า คณะรัฐมนตรี ยังไม่มีมติให้ปรับขึ้น โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรม และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไปหารือกันใหม่ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคต้องแบกรับต้นทุนเพียงฝ่ายเดียว

อนุมัติ 5.6 หมื่นล้านช่วยชาวนา

นายภูมิธรรม ยังเปิดเผยถึงการพิจารณาอนุมัติงบประมาณ เพื่อจ่ายค่าเก็บเกี่ยวข้าว ปีการผลิต 2566/2567 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกว่า 4,000,000 ครัวเรือน ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท ว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เสนอตามคณะกรรมการนโยบายข้าว ในการจ่ายเงินค่าช่วยบริหารจัดการข้าว ให้กับเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท รวมไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน โดยมีผลวันนี้ (14 พ.ย.) หลังจากนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ จะไปประชุมร่วมกันอีกครั้ง โดยคาดว่า ภายใน 1 เดือนนี้ เกษตรกรจะได้รับเงินดังกล่าว

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ได้ย้ำถึงการตราพระราชบัญญัตเงินกู้ 500,000 ล้าน เพื่อนำมาใช้ในโครงการดังกล่าวว่า จะต้องรอกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายของกฤษฎีกาก่อน แต่มั่นใจว่า จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล