บอร์ด กปน.ลาออก ปม 'วงษ์สยาม' ฟ้องประมูล 'โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์'

บอร์ด กปน.ลาออก ปม 'วงษ์สยาม' ฟ้องประมูล 'โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์'

บอร์ด กปน.ยื่นหนังสือถึง "อนุทิน" รมว.มหาดไทย ขอลาออก คาดผลกระทบจากกรณี "วงษ์สยาม"ฟ้องประมูล"โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์"

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2566 นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ประธานกรรมการการประปานครหลวง (กปน.) และ นายกฤษดา กวีญาณ กรรมการ กปน.ยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอลาออกจากการเป็นกรรมการ กปน. 

สำหรับหนังสือแจ้งการลาออกของนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อ้างถึง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการ กปน.ประกาศ ณ วันที่ 28 พ.ย.2563 ระบุตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2563 อนุมัติแต่งตั้งข้าพเจ้า นายกฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการ กปน.นั้นข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นกรรมการ กปน.และคณะอนุกรรมการฯ ทุกชุดที่คณะกรรมการ กปน.มีคำสั่งแต่งตั้ง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.2566 เป็นต้นไป 
 

ส่วนหนังสือลาออกของนายกฤษดา กวีญาณ ระบุว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2563 อนุมัติแต่งตั้งข้าพเจ้า นายกฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการ กปน.นั้น ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นกรรมการ กปน. คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการฯ ทุกชุดที่คณะกรรมการ กปน.มีคำสั่งแต่งตั้ง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2566

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2566 บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ยื่นฟ้องนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ กับพวกรวม 30 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กรณีคณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคา ได้ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ในการเข้าทำสัญญากับ กปน.

โดยการให้ผู้ที่เสนอราคาสูงกว่า เป็นผู้ชนะการประกวดราคาก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

ทั้งนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคดีไว้เพื่อตรวจคำฟ้อง ให้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในวันที่ 29 ส.ค.2566 เวลา 9.30 น.

อย่างไรก็ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งหรือพิพากษาไปในวันที่ 19 ต.ค.เวลา 9.30 น. ในคดีที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ประธานกรรมการ กปน.ที่ 1 กับพวกรวม 30 คน เป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่อท 132/2566 ความผิดตาม

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,83,151,157,368

พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172  

พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11

พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12  

พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 120,121

โดยเอกสารข่าวแจกของศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง  ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 29 ส.ค.2566  มีนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ และทนายโจทก์ มาศาล

โจทก์แถลงว่า โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางโดยฟ้อง กปน. ,คณะกรรมการฟ้องการประปานครหลวงและคณะกรรมการพิจารณาผล เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 และศาลปกครองกลางมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ลงวันที่ 24  มี.ค.ให้ทุเลาการบังคับตามประกาศการประปานครหลวง ลงวันที่ 7 มี.ค. เรื่องประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด  8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง สัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ประกาศให้ITA Consortium เป็นผู้ชนะการเสนอราคาไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเกี่ยวกับความเสียหาย

โจทก์แถลงเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันยื่นซองประกวดราคาถึงวันที่ประกาศผลการประกวดราคา โจทก์ก็เสียหายในส่วนค่าดำเนินการ การจัดเตรียมงานต่าง ๆและข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับโครงการและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการประมูลงาน จนถึงขั้นตอน ผลการพิจารณาอุทธรณ์ของกรมบัญชีกลาง (บก.) ว่าอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น เพื่อเตรียมการทำงานตามโครงการประมาณ 100 ล้านบาท

ศาลได้ตรวจคำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องโจทก์และรายงานเจ้าพนักงานคดีชั้นตรวจฟ้อง แล้ว เห็นว่าคำฟ้องยังไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงรายละเอียดและพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามสิบพร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอที่ จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ ตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559

จึงมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องโดยระบุข้อเท็จจริงและรายละเอียดตัวบุคคล เอกสาร หรือวัตถุตามที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้ง 30 กระทำผิดตามฟ้อง พร้อมเสนอหรือชี้ช่องพยานหลักฐาน ที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

1.ให้โจทก์บรรยายฟ้องเพิ่มเติมถึงวัน เวลาที่จำเลยแต่ละคนได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการการประปานครหลวง และให้เป็นกรรมการพิจารณาผลประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวันพร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) พร้อมแนบคำสั่งแต่งตั้ง

2.โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามสิบทำนองว่า ไม่ดำเนินการพิจารณาผลประกวดราคา จ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ให้ถูกต้องตามวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e- bidding) จึงให้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมถึงหลักเกณฑ์ ขั้นตอนการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e -bidding) ที่ถูกต้อง พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจน

3.ให้โจทก์บรรยายฟ้องในข้อ 2โดยเรียงตามลำดับวัน เวลา และบรรยายการกระทำความผิดของจำเลยแต่ละคนในฟ้องข้อที่ 2.2-2.5ให้ชัดเจนว่า จำเลยแต่ละคนกระทำการใดอันเป็นความผิด ผู้ใดเป็นตัวการ และผู้ใดเป็นสนับสนุน และสรุปให้ชัดเจนว่าในแต่ละกรรมจำเลยกระทำความผิดตามกฎหมายใด และมีคำขอท้ายฟ้องให้ถูกต้อง พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐาน ให้ชัดเจน

4.เพื่อมิให้เป็นการฟ้องคดีผิดไปจากบุคคลที่โจทก์ประสงค์ฟ้องคดีนี้ให้โจทก์ส่งสำเนาทะเบียนราษฎร์ของจำเลยทั้งสามสิบให้ครบถ้วน โดยแนบมาพร้อมกับคำฟ้องฉบับที่แก้ไขใหม่ต่อศาล

5.ปัจจุบันโครงการก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์อยู่ในขั้นตอนใด มีผู้ใดฟ้องคดีต่อศาลใดหรือไม่

เห็นสมควรให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 28 ก.ย.2566 หากไม่ดำเนินการในกำหนดเวลา ศาลจะมีคำสั่งตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 วรรคสอง ต่อไป

เพื่อสะดวกแก่การพิจารณา เห็นควรให้โจทก์ระบุให้ชัดเจนในคำร้องขอแก้ไขฟ้องว่าแก้ไขเพิ่มเติมพ้องไว้ในบรรทัดใดหน้าใด และจัดทำคำฟ้องฉบับสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ที่แก้ไขแล้วมายื่นใหม่เพื่อใช้แทนคำฟ้องฉบับเดิมด้วย

เพื่อให้ได้ความชัดแจ้งในข้อเท็จจริงแห่งคดีประกอบการตรวจคำฟ้อง เห็นควรมีหนังสือพร้อมสำเนาคำฟ้องและเอกสารท้ายคำฟ้องถึงกรมบัญชีกลาง และการประปานครหลวงให้ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องภายใน30วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ดังนี้

ให้มีหนังสือถึงกรมบัญชีกลางโดยชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

1.เหตุใดกรมบัญชีกลางต้องเป็นผู้สรุปข้อมูลการเสนอราคาประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding) อาศัยอำนาจตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด

2.ขั้นตอน หลักเกณฑ์ การพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 8 เเสน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e -bidding)

3.ตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางเห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น และมีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีนัยสำคัญ จึงให้ กปน.กลับไปดำเนินการในขั้นตอนการพิจารณาผลการเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องต่อไปตามมาตรา 119 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ตามหนังสือกรมบัญชีกลางด่วนที่สุด ลงวันที่21 เม.ย.2565 นั้น

มีความหมายให้การประปานครหลวงดำเนินการอย่างไร และตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การประปานครหลวงได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนกรมบัญชีกลางแจ้งผลหรือไม่อย่างไร

4.ในกรณีที่เอกสารการประกวดราคาไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วน จนเป็นเหตุให้ผู้เข้าประกวดราคายื่นเอกสารประกวดราคาไม่ถูกต้อง ผู้พิจารณาผลประกวดราคาจะต้องดำเนินการอย่างไร มีอำนาจตัดสิทธิผู้เข้าประกวดราคาที่ยื่นเอกสารไม่ถูกต้องอันเนื่องมาจากเอกสารการประกวดราคาไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร

5.ในกรณีที่ประกาศประกวดราคา กับเอกสารประกวดราคากำหนดเงื่อนไขในการยื่นเอกสารที่ใช้ในการประกวดราคาแตกต่างกัน ผู้เข้าประกวดราคาและกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาต้องถือตามประกาศประกวดราคาหรือเอกสารประกวดราคา

6.ในกรณีที่มีการอุทธรณ์คำสั่งอันเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างต่อผู้ออกคำสั่งหากผู้ออกคำสั่งเห็นว่า อุทธรณ์ไม่เป็นไปตาม พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 114,115 เเละ116 ผู้ออกคำสั่งจะไม่ส่งอุทธรณ์ไปยัง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางได้หรือไม่เพราะเหตุใด และผู้ออกคำสั่งคือการประปานครหลวงหรือผู้ใด

ให้มีหนังสือถึงการประปานครหลวง โดยชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

1.เหตุใดกรมบัญชีกลางต้องเป็นผู้สรุปข้อมูลการเสนอราคาประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีผลเชื่อมโยงอย่างไรกับกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา

2.ขั้นตอน หลักเกณฑ์ การพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

3.หากโจทก์ยื่นเอกสารการประกวดราคาไม่ถูกต้องครบถ้วนและยื่นข้อเสนอทางเทคนิคไม่เป็นตามที่ประกาศประกวดราคา มีขั้นตอนการตรวจคุณสมบัติในข้อนี้ในขั้นตอนใด และเหตุใดการประปานครหลวงจึงไม่แจ้งโจทก์ทราบตั้งแต่ครั้งที่จำเลยที่ 16 แจ้งต่อโจทก์ว่าโจทก์ไม่ผ่านการตรวจสอบเพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเมื่อวันที่ 1มี.ค.2565

เหตุใดการประปานครหลวง จึงมีหนังสือแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้างแก่โจทก์ตามแบบแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้าง ลงวันที่ 1 มี.ค.2565โดยแจ้งว่า โจทก์ไม่ได้รับการคัดเลือกเนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสอบในเรื่องคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ไม่เป็นไปตามคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอตามที่กำหนดในประกาศประกวดราคา ข้อ 11และเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2.11 เพียงข้อเดียว

4.ในการพิจารณาผลการประกวดราคาตามฟ้อง เหตุใดการประปานครหลวงจึงต้องให้จำเลยที่ 29,30 ผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบสัญญา SD-901(R1)เป็นผู้ตรวจสอบเอกสารยืนยันการใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์และแบบฟอร์มข้อมูลแสดงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ภาคผนวก "ซ" และเอกสารทุกภาคผนวกของผู้เข้าประกวดราคา อาศัยอำนาจตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด และมีการพิจารณาคัดเลือกผู้ตรวจสอบอย่างไร

5.การที่จำเลยที่ 18 มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงถึงกรมบัญชีกลาง ตามหนังสือการประปานครหลวง ด่วนที่สุด ลงวันที่8 มิ.ย.2565 นั้น เป็นเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าเอกสารการประกวดราคามีความไม่ชัดเจน อันอาจทำให้ผู้เข้าร่วมการประกวดราคาเข้าใจคลาดเคลื่อนได้หรือไม่ อย่างไร

6.เหตุใดการประปานครหลวง ไม่ส่งอุทธรณ์ (ครั้งที่2) ของโจทก์ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนต่อกรมบัญชีกลาง เป็นผู้พิจารณา แต่กลับมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ คำสั่งไม่มีเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการอุทธรณ์ของจำเลยที่ 17ตามหนังสือ ลงวันที่ 22 มี.ค.66

ก่อนทำคำสั่งดังกล่าวจำเลยที่ 17ได้นำอุทธรณ์ของโจทก์เข้าที่ประชุมหรือมอบหมายให้ผู้ใด เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและเสนอความเห็น ก่อนมีคำสั่งหรือไม่ อย่างไร และผู้ออกคำสังไม่ส่งอุทธรณ์คือการประปานครหลวงหรือผู้ใด

7.เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนกรมบัญชีกลาง เห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น และมีหนังสือแจ้งให้การประปานครหลวง "กลับไปดำเนินการในขั้นตอน การพิจารณาผลการเสนอราคาให้ถูกต้องต่อไป" เหตุใดการประปานครหลวงจึงไม่ปฏิบัติตามผล การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ด้วยการดำเนินการในขั้นตอนพิจารณาผลการเสนอราคาฯ ตามหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ลงวันที่ 21 เม.ย.2565

8.เหตุใดการประปานครหลวงออกหนังสือ  ลงวันที่ 6 มิ.ย.2565 ถึงจำเลยที่ 30ในฐานะกรรมการผู้จัดการจำเลยที่ 29 เรื่องการพิจารณาตรวจสอบเอกสารยื่นข้อเสนอประกวดราคางานก่อสร้างสัญญาGE-MS5/6-9 เพื่อให้จำเลยที่ 29 ตรวจสอบเอกสารผู้ยื่นข้อเสนอประกวดราคาให้ถูกต้อง ครบถ้วน ทุกภาคผนวกใหม่อีกครั้งตามความประสงค์ของ ITA Consortium

ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันที่ 19 ต.ค. เวลา09.30 น.

อนึ่งก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศราได้เคยลงรายละเอียดคำฟ้องของบริษัทวงษ์สยามฯ ไปแล้ว โดยบริษัทวงษ์สยามฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกิจการร่วมค้า ITA Consortiumได้ดำเนินการฟ้องจำเลยที่ 1-28 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานการประปานครหลวง หน่วยงานของรัฐประเภทรัฐวิสาหกิจ เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ

ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการพัสดุเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่การประปานครหลวง โจทก์ รัฐ ผู้อื่นและประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อ จัดจ้างหรือการบริหารพัสดุโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต

เนื่องจากในการเปิดประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของการประปานครหลวง (กปน.) นั้น

ปรากฏว่า โจทก์เป็นผู้ยื่นเสนอราคาต่ำสุดในจำนวนผู้เสนอราคาทั้งสิ้น 5 ราย ดังนี้

  1. โจทก์ราคาที่ยื่นเสนอคือ 6,150,000,000 บาท
  2. บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ราคาที่ยื่นคือ 6,195,300,000 บาท
  3. ITA Consortium ราคาที่ยื่นเสนอคือ 6,460,560,000 บาท
  4. บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ราคาที่ยื่นเสนอ คือ 6,523,800,000 บาท
  5. กิจการร่วมค้าสี่แสงเอสจี ราคาที่ยื่นเสนอ 6,525,000,000 บาท

แต่จำเลยที่ 16 และจำเลยที่ 19 ถึงจำเลยที่ 23 กับพวก พิจารณาตัดคุณสมบัติของบริษัทโจทก์ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ด้วยการแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้างแก่โจทก์ว่า โจทก์ไม่ได้รับการคัดเลือกเนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสอบ เพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วน โดยแจ้งว่าโจทก์มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอตามที่กำหนดในการประกาศประกวดราคา

นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2566 ว่า บอร์ด กปน.ยังไม่มีการลาออก อีกทั้งวาระการดำรงตำแหน่งของบอร์ดจะหมดวันที่ 22 พ.ย.2566 ซึ่งมีเวลาทำงานเพื่อสร้างการพัฒนาอีก 2 เดือนเศษ

"กรณีที่บอร์ด กปน.ชุดปัจจุบัน จะลาออกนั้น จะมีสาเหตุจากกรณีเดียว คือ เป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรม และจรรยาบรรณการดำเนินงานของบอร์ด กปน.  อันเป็นผลสืบเนื่องจากการมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ"

รวมทั้งขณะนี้กำลังรอความชัดเจนของการแบ่งงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยว่า รัฐมนตรีท่านใด จะได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล กปน.เมื่อมีความชัดเจนอย่างเป็นทางการแล้ว ทางบอร์ด กปน.กำหนดว่า ในเดือน ต.ค.2566 จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาถึงการลาออกหรือไม่

“ดังนั้น หากมีการลาออกจริง ขอยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งขอยืนยันว่า บอร์ด กปน.ทุกท่าน เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ตามหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้"

ส่วนกรณีข้อพิพาทการจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องสัญญา GE-MS 5/6-9 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการภายใต้กระบวนการยุติธรรมของศาล ซึ่งขอให้ไปตามกระบวนการ