เปิดโจทย์ท้าทาย ”ภูมิธรรม เวชยชัย”บนเก้าอี้ รมว.พาณิชย์

เปิดโจทย์ท้าทาย ”ภูมิธรรม เวชยชัย”บนเก้าอี้ รมว.พาณิชย์

เปิดภารกิจเร่งด่วน “ภูมิธรรม เวชยชัย” รมว.พาณิชย์ ดันส่งออกโค้งสุดท้าย ปิดส่งออกติดลบน้อยที่สุด พร้อมดูแลปัญหาค่าครองชีพประชาชน สกัดสารม็อบ

หลังจากยื้อยุดฉุดกระทรวงมาหลายสัปดาห์โควตานักการเมืองที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในที่สุดก็ได้ "ภูมิธรรม เวชยชัย"รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาคุม"บังเหียน" เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี  ที่นักการเมืองจากพรรคเพื่อไทยหรือไทยรักไทยกลับมาดูแลกระทรวงพาณิชย์หลังโดนรัฐประหาร

 "ภูมิธรรม เวชยชัย" ไม่ใช่รัฐมนตรีมือใหม่ เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  มีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างโชกโชนและอยู่กับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด เรียกว่า เป็นสายตรงนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง

 แม้"ภูมิธรรม"จะไม่ใช่มือ"สายเศรษฐกิจ"ที่จะมาบริหารกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นกระทรวงการค้าดูแลการค้าตั้งแต่รากหญ้า ไปจนถึงการค้าระหว่างประเทศ  แต่ก็เคยอยู่กับมือเศรษฐกิจอย่างประจำ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  น่าจะเชื่อมือได้ว่า จะบริหารงานได้ไม่ยากนัก โดยงานหลักของกระทรวงพาณิชย์ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของการปัญหาปากท้องของประชาชน ค่าครองชีพ ราคาสินค้า การเจรจาการค้าต่างประเทศ และการสร้างขีดความสามารถการแข่งขันระหว่างประเทศ  

แต่ภารกิจเร่งด่วนสำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คือ การเร่งผลักดันการส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 66 เพราะที่ผ่านมาการส่งออกของไทยอาการหนัก เพราะติดลบต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2565 ลดลง 4.2 % 

พ.ย.2565 ลด 5.6% ธ.ค.2565 ลด 14.3% ม.ค.2566 ลด 4.6% ก.พ.2566 ลด 4.8% 

มี.ค.ลด 4.2% เม.ย.2566 ลด 7.7% พ.ค.ลด 4.6% มิ.ย. ลด 6.5%

ล่าสุด เดือน ก.ค.ติดลบลดลง 6.2%  และการค้าชายแดนและผ่านแดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตัวเลขการส่งออกก็ยังอาการไม่ดีขึ้นเช่นกัน

 

โดยส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้หากจะทำให้เป้าส่งออกทั้งปี โต  1-2%  และถ้าจะไม่ให้การส่งออกติดลบ เดือนที่เหลือต้องส่งออกเฉลี่ย 24,800 ล้านดอลลาร์ จะขยายตัว 0% แต่ถ้าเพิ่มเป็นเฉลี่ยเดือนละ 25,100 ล้านดอลลาร์ จะขยายตัว 0.5%  ซึ่ง"ส่งออก"ถือเป็น"งานสำคัญ"ชิ้นแรกที่ รมว.พาณิชย์ คนใหม่ จะต้องแสดง"ฝีมือ"ในการเร่งแผนขับเคลื่อนการส่งออกพร้อมกับจับมือภาคเอกชนในการเดินหน้าผลักดันการส่งออก

โดยกระทรวงพาณิชย์ได้แผนด้านการส่งออกเสนอรัฐมนตรีใหม่ไว้แล้ว เพียงแต่ต้องดูนโยบายของรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชน์เป็นอย่างไร มีอะไรกระทรวงได้ดำเนินการไปแล้ว และมีสิ่งใดที่จะทำเพิ่มเติม ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่เน้นตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ 

รวมทั้งจะต้องเร่งเดินหน้าเปิดตลาดการค้าใหม่ เพราะจะหวังตลาดเดิมไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ จีน ยุโรป คงยากเพราะเศรษฐกิจภายในประเทศยังเปราะบาง กำลังซื้อหด ขณะที่ปัญหาราคาสินค้าแพงก็ยังต้องแก้ไขเพราะเป็นปัญหาปากท้องของประชาชนในห้วงเวลาที่สินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น

รมว.พาณิชย์คนใหม่ ไม่มีเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ เพราะต้องเร่งทำงานให้เห็นโดยเฉพาะ"ส่งออก" ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจไทย