“ทอท.”ขอรัฐบาลใหม่สยายปีก เสริมศักยภาพบริหารสนามบิน

“ทอท.”ขอรัฐบาลใหม่สยายปีก  เสริมศักยภาพบริหารสนามบิน

ทอท.เตรียมชงรัฐบาลเศรษฐา รับโอนสนามบินภูมิภาคเพิ่มรวม 9 แห่ง หวังบริการน่านฟ้ามีประสิทธิภาพ พร้อมเดินหน้าโครงการลงทุนขยายขีดความสามารถท่าอากาศยาน ขณะที่ตัวเลขผู้โดยสารปีงบ 2566 พุ่งเกินคาด 25% ดันกำไรโตกว่า 5 พันล้านบาท

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงการเตรียมความพร้อมพัฒนาขีดความสามารถของอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเป็นกลไกที่สร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างเร่งด่วน ทอท.ได้ยืนยันถึงความพร้อมในการลงทุนท่าอากาศยานต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแล ทั้งส่วนของท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2565 ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนออกแบบก่อสร้าง

รวมไปถึงโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี  โครงการท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพิ่มการรองรับเป็น 14 ล้านคนต่อปี และโครงการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ที่จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ เพิ่มการรองรับเป็น 18 ล้านคนต่อปี

พร้อมรับโอน3ท่าอากาศยานภูมิภาค

นอกจากนี้ ทอท.ยังยืนยันความพร้อมของการเข้าบริหารท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ที่ ครม.อนุมัติไว้แล้วจำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย อุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบพร้อมผลักดันแผนรับโอนท่าอากาศยานภูมิภาค อีกทั้งยังได้กำชับให้ ทอท.มองการลงทุนรับโอนส่วนของท่าอากาศยานอื่นๆ ที่ไม่ทำกำไรในปัจจุบัน และนำไปพัฒนาให้เกิดกำไร

“ตอนนี้ ทอท.พร้อมลงทุนในทุกโครงการตามแผน และพร้อมรับนโยบายรัฐบาลในการช่วยพัฒนาบริการผู้โดยสาร ซึ่งเรื่องของการรับโอนสนามบินภูมิภาค รัฐบาลก็ตอบรับที่จะผลักดันต่อ อีกทั้งขณะนี้กระทรวงคมนาคมยังมีนโยบายให้ ทอท.ศึกษาความเป็นไปได้ในการรับโอนสนามบินจาก ทย.เพิ่มเติมอีก 6 แห่ง โดยเรื่องนี้ ทอท.ก็เตรียมเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาด้วย”

สำหรับ 6 ท่าอากาศยานภูมิภาค ที่ ทอท.จะพิจารณาเข้าไปรับโอนมาบริหารเพิ่มเติม ส่วนใหญ่จะเป็นท่าอากาศยานที่มีศักยภาพอยู่แล้ว และสามารถสนับสนุนให้ ทอท.ทำเส้นทางการบินเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ท่าอากาศยานพิษณุโลก ท่าอากาศยานแม่สอด ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ท่าอากาศยานขอนแก่น ท่าอากาศยานตรัง และท่าอากาศยานระนอง

6 สนามบินทอท.บริหาร 3 แสนคนต่อวัน

“ทอท.”ขอรัฐบาลใหม่สยายปีก  เสริมศักยภาพบริหารสนามบิน

 

นายกีรติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้โดยสารใน 6 ท่าอากาศยานที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท. มีปริมาณรวมกว่า 3 แสนคนต่อวัน ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง และปีหน้าคาดว่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีปริมาณเฉลี่ย 4.5 แสนคนต่อวัน โดยการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารดังกล่าว ทำให้ ทอท.ประเมินว่าปริมาณผู้โดยสารในสิ้นปีงบประมาณ 2566 จะสูงเกินกว่าคาดการณ์ไว้ราว 25% เช่นเดียวกับรายได้และกำไรก็จะมีอัตราการเติบโตสอดคล้องกัน

ขณะที่ภาพรวม 3 ไตรมาสในปีงบประมาณ 2566 ทอท.มีกำไรรวมแล้วกว่า 5 พันล้านบาท โดยแนวโน้มในไตรมาส 4 ปีนี้ก็ประเมินว่าจะมีทิศทางเป็นบวก ทำให้ ทอท. จะมีกระแสเงินสด (แคชโฟว์) ไปใช้หนี้เงินกู้ต่างๆ ที่ดำเนินการกู้มาในช่วงโควิด-19 โดยประเมินว่าในปี 2567 จะเป็นปีที่ ทอท.มีรายได้เป็นบวก มีเงินสดสะสมเหลือเพียงพอใช้ในการลงทุนโครงการต่างๆ

สำหรับความคืบหน้าของการเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรองรับผู้โดยสารในช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) ที่จะมาถึงในเดือน ต.ค.นี้ ล่าสุด ทอท.เตรียมเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) อย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ 28 ก.ย.2566 โดยการให้บริการเบื้องต้นจะมีสายการบินให้บริการ 3 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ สายการบินเวียตเจ็ท และสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งช่วงแรกจะให้บริการรวมประมาณวันละ 12 เที่ยวบิน จากนั้นคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบได้ประมาณเดือน ธ.ค.2566 โดยจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี

ประมูลรวมสัญญาเดียว 3.6 หมื่นล้าน

ส่วนการเปิดประมูลจัดหาผู้รับเหมาพัฒนาโครงการท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ทอท.จะดำเนินการประมูลรวมเป็นสัญญาเดียว วงเงินลงทุนราว 3.6 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งรายละเอียดงานออกเป็น 6 กลุ่มงาน

  • กลุ่มงานที่ 1 งานพัฒนาด้านทิศใต้ เช่น งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 พร้อมอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 และงานปรับปรุงอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น เป็นชานชาลาจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร
  • กลุ่มงานที่ 2 งานพัฒนาพื้นที่ด้านทิศเหนือ เช่น งานปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ และงานก่อสร้างขยายอาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ รวมไปถึงอาคารสำนักงานสายการบิน และอาคารรับรองพิเศษ VVIP
  • กลุ่มงานที่ 3 งานก่อสร้างในพื้นที่เขตปฏิบัติการการบิน เช่น งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานด้านทิศเหนือพร้อมทางขับเชื่อม ปรับปรุงลานจอดภายใน ทดม. และปรับปรุงพื้นที่ทิศเหนือเป็นเขตการบิน
  • กลุ่มงานที่ 4 งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 อาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ และอาคารเทียบเครื่องบิน หมายเลข 2-4
  • กลุ่มงานที่ 5 งานสนับสนุนโครงการพัฒนา ได้แก่ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค
  • กลุ่มงานที่ 6 งานสิ่งแวดล้อม เช่น การเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม