'กรมธุรกิจพลังงาน' คลอด 6 มาตรการ แก้ปัญหาก๊าซหุงต้ม LPG ทั้งระบบ

'กรมธุรกิจพลังงาน' คลอด 6 มาตรการ แก้ปัญหาก๊าซหุงต้ม LPG ทั้งระบบ

"กรมธุรกิจพลังงาน" คลอด 6 มาตรการ แก้ปัญหาก๊าซหุงต้ม LPG ทั้งระบบ หวังรัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายด้านพลังงาน เคลื่อนแผนพลังงานชาติ ด้านสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้น 2.7% โดยน้ำมันเครื่องบินเพิ่งขึ้น 80.9% 

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า สิ่งที่กรมฯ ได้เตรียมนำเสนอรัฐบาลใหม่คือแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ซึ่งเป็น 1 ใน 5 แผนที่ผนวกไว้ในแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ซึ่งจะเป็นแนวทางการพัฒนาพลังงานในช่วง 5 ปี ข้างหน้า ประกอบด้วย 1.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) 2.แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) 3.แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) 4.แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) และ 5.แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) 

อย่างไรก็ตาม ร่าง Oil Plan ได้ผ่านการประชาชพิจารณ์กลุ่มย่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จึงต้องรอให้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ในชุดรัฐบาลใหม่ที่อยู่ระหว่างจัดตั้งเป็นผู้เห็นชอบก่อนจะเปิดประชาพิจารณ์รอบสุดท้ายก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่พิจารณา ดังนั้น หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไปอีก ก็จะกระทบต่อภาพรวมของการดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยเฉพาะการอนุมัติงบประมาณสนับสนุนที่จะล่าช้าตามไปด้วย

สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ของปี 2566 (ม.ค. –มิ.ย.) เฉลี่ยอยู่ที่ 156.74 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.7% และคาดว่าภาพรวมทั้งปีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ  

โดยครึ่งปีแรก การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.96 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.9%, การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล 72.30 ล้านลิตร/วัน ลดลง 3.7% เนื่องจากปัจจัยด้านราคา ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาท/ลิตร สิ้นสุดลงในวันที่ 20 ก.ค. 2566 ได้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2566 เป็นต้นไป 

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.45 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 80.9% จากการฟื้นตัวของการเดินทางทางอากาศภายหลังโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งก่อนเกิดโควิดยอดการใช้อยู่ที่ระดับ 20 ล้านลิตร/วัน, การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เฉลี่ยอยู่ที่ 17.69 ล้านกก./วัน ลดลง 1.4% ส่วนใหญ่มาจากการใช้ลดลงในภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี 4.2% 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีหลัง จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับตัวของธุรกิจที่พึ่งพาการขนส่งมากขึ้น โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับเพิ่มขึ้น 1.2% น้ำมันดีเซลปรับลดลง 1.9% น้ำมัน JET A1 เพิ่มขึ้น 30.6% และ LPG เพิ่มขึ้น 5.7% 

"กรมฯ คาดว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยปี 2566 ในภาพรวมยกเว้นน้ำมัน JET A1 จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากธุรกิจการบินอยู่ระหว่างการฟื้นฟู และการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดการเดินทางไกล"

นางสาวนันธิกา สำหรับการแก้ไขปัญหาระบบการค้าและความปลอดภัยก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน หรือ (ก๊าซหุงต้ม) กรมธุรกิจพลังงานโดยคณะทำงานแก้ไขปัญหาก๊าซปิโตรเลียมเหลวในภาคครัวเรือน ได้จับมือร่วมกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน ประกอบด้วย 

1. กำหนดมาตรฐานและคุณภาพถังก๊าซหุงต้ม  โดยกรม ผู้ค้าก๊าซหุงต้ม และผู้แทนโรงบรรจุและร้านจำหน่าย ร่วมกันพิจารณาเกณฑ์การคัดสภาพถังกลาง เพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินการร่วมกัน พร้อมทั้งขอให้โรงบรรจุรับคืนถังเสื่อมสภาพจากร้านจำหน่าย เพื่อส่งผู้ค้าฯ ดำเนินการต่อไป

2. มาตรการด้านกฎหมายความปลอดภัยโรงบรรจุและร้านจำหน่าย จัดทำขั้นตอนการตรวจตราและบันทึกการตรวจสอบ (Checklist) พร้อมซักซ้อมความเข้าใจสำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ

3. มาตรการด้านกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานความร่วมมือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) จัดทำขั้นตอนการดำเนินการเมื่อพบถังไม่ได้คุณภาพ 

4. การร้องเรียนและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อยู่ระหว่างหารือผู้ค้าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดตั้ง Hotline รับเรื่องร้องเรียน คาดจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนกันยายน 2566

5. การเพิ่มประสิทธิภาพการเรียกเก็บและการซ่อมถังก๊าซหุงต้ม กรมได้ขอความร่วมมือผู้ค้าฯ ที่มีศักยภาพซ่อมถัง ให้เปิดรับบริการผู้ค้าฯ รายอื่น เพื่อลดข้อจำกัดการขนส่งและระยะเวลาการซ่อม ตลอดจนการประสานความร่วมมือเรียกเก็บถังทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ ซึ่งแนวทางอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดร่วมกับผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการภายในเดือนตุลาคม 2566 

6. การแก้ไขปัญหาการลักลอบเติมถังก๊าซหุงต้มในสถานีบริการ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและลดการกระทำผิด กรมได้กำหนดอัตราปรับเต็มขั้น และกำชับพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ออกตรวจตราเข้มข้นมากขึ้น

"กรมฯ ยืนยันเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาถังก๊าซหุงต้มทั้งระบบโดยประสานความร่วมมือภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้ประชาชน และให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วนโดยยึดประโยชน์ของภาคประชาชนเป็นสำคัญ  เพิ่มความถี่การตรวจตราและติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และประกาศอัตราปรับเต็มขั้นที่ 25,000 บาทในครั้งแรก และมีรางวัลนำจับ 25% ของอัตราค่าปรับ"

ส่วนมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนภายหลังคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ตรึงราคาก๊าซ LPG ที่ถังละ 423 บาท โดยจะไปสิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. 2566 นี้ คงต้องรอให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ประชุมหารือว่าจะใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ มาพยุงราคาที่เท่าเดิมต่อหรือไม่ เพราะหากตรึงไว้ที่เท่าเดิมก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องคำนึงถึงฐานะกองทุนน้ำมันฯ ด้วยเช่นกัน