ราคาน้ำมันวันนี้พุ่ง ทำไมน้ำมันปรับราคาขึ้นแรง ที่นี่มีคำตอบ

เช็กเลย ราคาน้ำมันวันนี้พุ่ง ทำไมน้ำมันปรับราคาขึ้นแรง ที่นี่มีคำตอบ

อัปเดต เช็ก 'ราคาน้ำมัน' พุ่ง ทำไมขึ้นแรง ที่นี่มีคำตอบ ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่ง ดันราคาขายปลีกในประเทศขึ้น 70 ส.ต.

เกิดคำถามขึ้นทันที ล่าสุด น้ำมัน ราคาพุ่ง ทำไมขึ้นแรง "กรุงเทพธุรกิจ" ที่นี่มีคำตอบ จากเหตุ"ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่ง" ดันราคาขายปลีกในประเทศขึ้น 70 ส.ต.

"ราคาน้ำมัน"ในประเทศขึ้นแรง 70 ส.ต. หลังแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้น กลุ่มโอเปกประกาศลดกำลังการผลิตต่อเนื่อง ซาอุฯ ยืนยันลดการผลิตน้ำมันดิบ1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่อถึงเดือน ก.ย.

การปรับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศครั้งล่าสุด

ที่มีผลในวันที่ 12 ส.ค.2566 ขยับขึ้นแรงหลังจากบริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมัน ในกลุ่มเบนซิน และ ซูเปอร์พาวเวอร์ ดีเซล B7 ปรับขึ้น 70 สตางค์/ลิตร

 ส่วนน้ำมันดีเซลชนิดอื่นๆ ราคาคงเดิม มีผลวันที่ 12 ส.ค. 2566 ตั้งแต่เวลา05:00 น.

 

ราคาน้ำมันขายปลีก (ใหม่) วันที่ 12 ส.ค.2566 

ในกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ พบว่าราคาเข้าใกล้ระดับลิตรละ 70 สตางค์/ลิตร ดังนี้

  • แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 37.69 บาทต่อลิตร +0.70
  • แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 37.24 บาทต่อลิตร +0.70
  • แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 39.28 บาทต่อลิตร +0.70
  • แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 39.55 บาทต่อลิตร +0.70
  • เบนซิน อยู่ที่ 47.34 บาทต่อลิตร +0.70
  • ซูเปอร์พาวเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.84 บาทต่อลิตร +0.70
  • ซูเปอร์พาวเวอร์ ดีเซล B7 ราคา 41.74 บาท/ลิตร +0.70

สำหรับ การปรับขึ้นราคาขายปลีกในประเทศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากราคานั้นดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น โดย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้นจากอุปทานมีแนวโน้มลดลง หลังวันที่ 4 ส.ค.2566 ที่ประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) มีมติคงนโยบายลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรวม 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นปี 2567 

นอกจากกลุ่ม OPEC ผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ค.2566 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 27.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ประกอบกับซาอุดีอาระเบียอาสาขยายกรอบเวลาลดการผลิตน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือน ก.ค.- ส.ค.2566 ไปถึงเดือน ก.ย.2566 (เดือน ก.ค.2566 ซาอุฯ ผลิตอยู่ที่ 9.10 ล้านบาร์เรลต่อวัน)

รวมทั้งรัสเซียอาสาลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ก.ย.2566 ลง 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังมีแผนลดการส่งออกน้ำมันดิบ ในเดือน ส.ค.2566 ลง 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน(เดือน มิ.ย. 66 รัสเซียส่งออกทางทะเล อยู่ที่ 3.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน) โดย การประชุมOPEC+ ครั้งถัดไปวันที่ 4 ต.ค.2566

ในขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งกระทรวงพลังงานใช้เป็นกลไกในการดูแลราคาน้ำมันในประเทศยังคงติดลบต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 6 ส.ค.2566 ติดลบ 50,435 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 5,323 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 50,438 ล้านบาท

ส่วนอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 11 ส.ค.2566 พบว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์91 และ 95 จ่ายเงินเข้ากองทุน ลิตรละ 2.80 บาท ขณะที่แก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 จ่ายเงินเข้ากองทุนลิตรละ 0.81 บาท