เกษตรกรเลี้ยงหมู ผนึกกำลัง “อัจฉริยะ” ร้องDSIล้างบาง “หมูเถื่อน”

เกษตรกรเลี้ยงหมู ผนึกกำลัง “อัจฉริยะ” ร้องDSIล้างบาง “หมูเถื่อน”

“หมูเถื่อน”ปัญหาใหญ่ จากที่เกษตรต้องแบกรับปัญหาต้นทุนผลิตสูง แต่ขายได้ราคาต่ำ เพราะหมูเถื่อนระบาดในตลาดจำนวนมาก สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้จับมือ “อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือDSI เร่งตรวจสอบเพิ่มตู้ตกค้าง400-1,000 ตู้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตัวการสำคัญตัดราคาในประเทศ

น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัยอุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ  เปิดเผยว่า ตัวแทนผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ เข้าร้องต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เร่งเอาผิดต้นตอลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ที่สร้างความเสียหายเกือบ5หมื่นล้านบาท หากไม่หยุดยั้ง ยิ่งจะสร้างความสูญเสียเพิ่มอีก เพราะขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีต้นทุน 96บาท แต่จำหน่ายเพียง53บาท พร้อมเร่งรัดการตรวจสอบกรณีพบหมูเถื่อน 400 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งไม่นำเข้ากระบวนการตรวจสอบ เช่นเดียวกับหมูเถื่อนที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ 161 ตู้ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย

 

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามา ผ่านทางท่าเรืออื่นๆ ด้วย ซึ่งตามเอกสารที่นายด่านศุลกากรได้ชี้แจง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน พบว่า ยังมีตู้คอนเทนเนอร์หมูเถื่อนค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อีกกว่า 1,000 ตู้ ซึ่งในวันนี้ ได้นำหลักฐานที่รวบรวมได้มมอบให้DSIเพื่อไปตรวจสอบ

 

เกษตรกรเลี้ยงหมู ผนึกกำลัง “อัจฉริยะ” ร้องDSIล้างบาง “หมูเถื่อน” เกษตรกรเลี้ยงหมู ผนึกกำลัง “อัจฉริยะ” ร้องDSIล้างบาง “หมูเถื่อน”

 

น.สพ.วิวัฒน์ ย้ำว่า หมูเถื่อนจากต่างประเทศส่งผล กระทบเป็นวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเท่านั้น แต่กระทบถึงผู้บริโภคด้วย เนื่องจากการตรวจสอบพบมีเชื้อที่อันตรายต่อคนและสัตว์ รวมถึงทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย ที่พบการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามจำนวนมหาศาล

 

ขณะที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากร ขอให้DSIตรวจตู้หมูเถื่อนที่ยังซุกซ่อนอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกหลายพันตู้ เพราะหลังจากจับกุมล็อตใหญ่ไปแล้ว161ตู้ จำนวนหมูเถื่อน4.5พันตัน ยังคงมีตู้หมูเถื่อนซุกซ่อนอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกมากกว่า2,000ตู้ สำหรับเป้าหมายสำคัญ คือ อยากขอให้DSIดําเนินคดีกับนายด่านท่าเรือไปจนถึงอธิบดีศุลกากร แต่เกรงว่าจะขัดต่อรูปคดีที่ดําเนินการอยู่ จึงขอให้DSIช่วยตรวจสอบหมูเถื่อนที่ยังตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

 

นายอัจฉริยะ บอกว่า ตนมีหลักฐานชัดเจน โดยหลังจากที่มีการเข้มงวดตรวจค้นที่ท่าเรือแหลมฉบังก็พบว่ามีการลักลอบออกมาทีละ 1-2 ตู้ และเปลี่ยนจากท่าเรือแหลมฉบังไปที่ท่าเรือคลองเตยแทน หมูเถื่อนเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบันและอีก 2 เดือนข้างหน้าหากยังไม่มีการแก้ไขหรือปราบปรามอย่างจริงจังเกษตรกรทั่วประเทศ “เจ๊ง” หมดอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนก็ได้รับหมูที่มีราคาแพงขึ้น

 

ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร เผย ผู้เลี้ยงหมูทุกคนเดือดร้อนเป็นอย่างมากคาดว่าไม่เกิน 2 เดือน จะล่มสลาย จึงอยากขอให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ซึ่งได้ข้อมูลว่ามีการลอบนําเข้ามาอย่างหนักในภาคใต้ เพราะขึ้นง่ายมีทะเลทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อระวังท่านี้ก็หนีไปขึ้นท่าอื่นๆ และก่อนหน้านี้ไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมากกว่า200,000ราย แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแค่40,000กว่ารายเท่านั้น และไม่อยากให้ประชาชนติดกับดักอยู่ที่การจับหมูเถื่อน 161 ตู้ เท่านั้น เพราะนั่นยังไม่ถึง1%ของที่ลักลอบนำเข้าด้วยซ้ำ ที่เหลืออีกจํานวนมาก

 

“หมูเถื่อน” คือยาพิษแก้วใหญ่ที่จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อเกษตรกรทั่วประเทศ วันนี้ทุกภาคส่วนต้องเร่งแก้ปัญหา เพื่อปกป้องอาชีพเกษตรกร ปกป้องความปลอดภัยอาหารให้ผู้บริโภค และปกป้องให้เศรษฐกิจประเทศ