ตั้งรัฐบาลช้า เสียโอกาส Thai Soft Power
![ตั้งรัฐบาลช้า เสียโอกาส Thai Soft Power](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2023/08/ACAPh3GW8AIAGev4dcHh.webp?x-image-process=style/LG)
การจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงโดยง่าย มิหนำซ้ำอาจเกิดความขัดแย้งทางการเมือง บานปลายยากแก่การคาดเดาอย่างยิ่ง
กรณีจัดตั้งรัฐบาล และซอฟท์ พาวเวอร์ของไทย (Thai Soft Power) ซึ่งปัญหาและทิศทางของประเทศที่รอ "รัฐบาลใหม่" เข้ามาจัดการและกำหนดนโยบาย จึงไม่ชัดเจนตามไปด้วย
กรณีสุญญากาศที่เกิดขึ้นนี้ กระทบ การเบิกจ่ายงบประมาณ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจไทย
น่าเสียดายโอกาสของประเทศ หากยังต้องรอนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยไม่รู้ว่าจะจบสิ้นในเร็ววันหรือไม่ ยิ่งถ้าดูจากภาคการท่องเที่ยวอันเป็น "พระเอก" ขณะนี้ ในการสร้างรายได้ของประเทศ ซึ่งผ่านไป 7 เดือนของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 15.4 ล้านคน จากเป้าหมายอย่างน้อย 25 ล้านคนในปีนี้
ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า สร้างรายได้ท่องเที่ยว 7.4 แสนล้านบาท รวมมีรายได้การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ 1.2 ล้านล้านบาท
การท่องเที่ยวในประเทศนั้น รัฐชี้จุดแข็งสู่จุดขายของซอฟท์ พาวเวอร์ของไทย (Thai Soft Power) หนุนสินค้าเชิงประสบการณ์ผ่านอัตลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคของประเทศ และตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2567 ประมาณ 3 ล้านล้านบาท
ถามว่า ซอฟท์ พาวเวอร์ของไทย ที่รัฐบาลสามารถเอื้อให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศและใช้สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งวัฒนธรรมให้เกิดพลังนั้น คงต้องชูด้านภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ผลิตเป็นสื่อบนแพลตฟอร์มออนไลน์เผยแพร่กระจายไปทั่วโลก
ตัวอย่าง กองถ่ายทำจากเกาหลี สร้างซีรีย์ King The Land Ep.10 นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติตามรอยเช็คอิน สถานที่ท่องเที่ยววัฒนธรรมของไทย ซึ่งเป็นการตอกย้ำอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5 F ได้แก่ Food อาหาร, Film ภาพยนตร์และวีดิทัศน์, Fashion การออกแบบแฟชั่นไทย, Fighting ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ Festival เทศกาลประเพณีไทย
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศ จะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์หรือซีรีย์ จำนวน 21 ราย จาก 8 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อินเดียและออสเตรเลีย โดยมีแผนใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,800 ล้านบาท เป็นต้น
กล่าวคือ ถ้าได้รัฐบาลตัวจริงโดยเร็ว คงจะดีกว่านี้หรือไม่ เพราะอำนาจและหน้าที่ของ “รัฐบาลรักษาการ” มีข้อจำกัดไว้ ยังไม่พูดถึงในแง่การบริหารราชการแผ่นดิน การกำกับสั่งการตามนโยบายให้ข้าราชการได้ปฏิบัติอาจยาก เนื่องจากจะลงมือ หรือทำแล้ว คณะรัฐบาลชุดใหม่อาจไม่เห็นด้วยเกิดความเปลี่ยนแปลง ย่อมเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะด้านงบประมาณ
ทั้งนี้ เชื่อว่าเมื่อได้รัฐบาลใหม่ จะเกิดความเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายเกี่ยวกับซอฟท์ พาวเวอร์ของเราอย่างแน่นอน เนื่องจากภาคเอกชนและองค์กรภาคประชาชน มีข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้กฎหมาย การอำนวยความสะดวกในการผลิตสื่อในรูปแบบงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ นั้น อยากให้รัฐบาลใหม่รับไปพิจารณาหรือหารือให้เร็วขึ้นและเกิดผลเป็นรูปธรรม เพราะโลกหมุนเร็วไม่รอใคร.. Thai Soft Power เสียโอกาสมานานพอแล้ว
...
เรื่องที่เกี่ยวข้อง