‘กอบศักดิ์’ ห่วงรัฐบาลผสมขาดเสถียรภาพ

ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยห่วงรัฐบาลผสมขาดเสถียรภาพ จากนโยบายที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ขณะที่ความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว จากปัจจัยหนุนการจัดตั้งรัฐบาลและการท่องเที่ยวฟื้นตัว

ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยห่วงรัฐบาลผสมขาดเสถียรภาพ จากนโยบายที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ขณะที่ความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว จากปัจจัยหนุนการจัดตั้งรัฐบาลและการท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วนปัจจัยฉุดจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและความขัดแย้งระหว่างประเทศ

ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO กอบศักดิ์ ภูตระกูล ระบุ คาดว่ากลางเดือน ก.ค.นี้จะเห็นทิศทางและความชัดเจนของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากนั้นจะเห็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ซึ่งตลาดทุนหวังว่าการตั้งรัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพเพียงพอเพราะมีปัญหาที่ต้องแก้รออยู่มาก ขณะเดียวกันหวังว่าการแบ่งกระทรวงต่าง ๆ จะจัดสรรได้เหมาะสม นำไปสู่นโยบายที่จะขับเคลื่อนตอบโจทย์ความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า และเห็นนโยบายเศรษฐกิจว่าจะมีทิศทางอย่างไรซึ่งจะกำหนดอนาคตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

สำหรับความท้าทายที่รัฐบาลใหม่จะต้องเตรียมแผนที่จะรับมือ คือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 4.0 การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และจุดยืนของไทยในบริบทความขัดแย้งของมหาอำนาจโลก

นักลงทุนห่วงความไม่แน่นอนจัดตั้งรัฐบาล

สำหรับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือนมิถุนายน 2566 พบว่าอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นเล็กน้อย 5.1% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” โดยนักลงทุนมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล รองลงมาคือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และเงินทุนไหลออก

สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามได้แก่ การส่งสัญญาณของ FED ที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เช่นเดียวกับธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจหลักอีกหลายประเทศ อาทิ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่จบ การกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ—จีน อีกทั้งเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง

ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และความมีเสถียรภาพในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินและเศรษฐกิจ อีกทั้งภาคการส่งออกของไทยที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง