'กรมราง' ร่างโรดแมปรถไฟฟ้า เขย่า 29 โครงข่ายใยแมงมุม

กรมการขนส่งทางราง เตรียมชง ครม.ชุดใหม่คลอดแผนแม่บทระหว่างปี 2573-2592 เคาะแผนพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟฟ้า M-Map2 ยกเคสศึกษา 29 เส้นทางเป็นไปได้สูง เร่งรับฟังความคิดเห็นประชาชน - เอกชน คาดได้ข้อสรุป 24 ก.ค.นี้ จัดลำดับความคุ้มค่าในการลงทุนสูงสุด
แผนพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 1 หรือ M-MAP 1 ถูกกำหนดไว้ให้ดำเนินการระหว่างปี 2553-2572 จากภาพรวมขณะนี้เข้าสู่ปีที่ 14 มีโครงข่ายรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ 10 เส้นทาง และยังไม่ได้ดำเนินการอีก 9 เส้นทาง อีกทั้งปัจจุบันการพัฒนาตามแผนแม่บทดังกล่าวพบว่าไม่สอดคล้องความต้องการประชาชน และการขยายตัวของเมือง จึงต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชนและเอกชน เพื่อปรับสู่ M-MAP2
สำหรับแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือ M-MAP2 จะวิเคราะห์และกำหนดแนวเส้นทางที่มีความเป็นไปได้จากปัจจัย 5 ด้าน คือ
1.เป้าหมายแนวเส้นทางต้องบรรเทาความหนาแน่นระบบราง
2.เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่ปิดล้อมขนาดใหญ่และรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต
3.เพื่อพัฒนาโครงข่ายรวมและการกระจายการเดินทางเพิ่มเติม
4.ปรับปรุงรูปแบบค่าโดยสารให้เหมาะสมและเป็นธรรมมากขึ้น 5.เพื่อความสอดคล้องและเชื่อมต่อกับการขนส่งรูปแบบอื่น โดยแผนแม่บทนี้ถูกกำหนดใช้ใน 20 ปี (2573-2592) ต่อเนื่องกับแผน M-MAP1
พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า กรมฯ ได้รับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล ประกอบไปด้วย จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี นนทบุรี และนครปฐม เพื่อนำข้อมูลความต้องการของประชาชนในพื้นที่มาศึกษาเพิ่ม ร่วมกับแผน M-MAP 2 Blueprint ที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ศึกษาไว้เพื่อให้แผน M-MAP2 ตอบโจทย์การใช้งาน
“เดือน ก.ค.นี้ จะสรุปเส้นทางที่เหมาะสมและคุ้มลงทุน จากนั้นเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) กระทรวงคมนาคม และรอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เห็นชอบกำหนดเป็นแผนแม่บท รวมทั้งคัดเลือกแนวเส้นทางที่จะเริ่มลงทุนทันที”
สำหรับการพิจารณาในเบื้องต้น พบว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และมีความพร้อมนำเสนอรัฐบาล ประกอบด้วย 3 โครงการ ที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับ A1 มีวงเงินลงทุนรวม 23,417 ล้านบาท ได้แก่
1.รถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงรังสิต-ธรรมศาสตร์ ระยะทาง 8.84 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 6,570 ล้านบาท
2.ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 10,202 ล้านบาท
3.ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 6,645 ล้านบาท โดย 3 เส้นทางดังกล่าว ถือเป็นเส้นทางที่ต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากมีประชาชนสัญจรกว่า 1 แสนคนต่อวัน
ส่วนโครงการในภาพรวมที่จะถูกนำมาศึกษารายละเอียด จัดลำดับความจำเป็น และความคุ้มค่าต่อการลงทุน เพื่อกำหนดไว้ใน M-Map2 พบว่ามี 29 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทาง M-Map 1 ที่ยังไม่ดำเนินการ 8 เส้นทาง อาทิ รถไฟฟ้าสายสีแดง สายธานีรัถยา, รถไฟฟ้าสายสีแดง สายนครวิถี, รถไฟฟ้าสายสีฟ้า ช่วงดินแดง-สาทร และรถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงลำลูกกา-ท่าพระ
นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางใหม่ 13 เส้นทาง อาทิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ, รถไฟฟ้าสายบางบำหรุ-ดินแดง-หลักสี่, รถไฟฟ้าสายรังสิต-ธัญบุรี-คลอง 16-ธรรมศาสตร์, รถไฟฟ้าสายรังสิต-ปทุมธานี, รถไฟฟ้าสายคลอง 3-คูคต, รถไฟฟ้าสายสุวรรณภูมิ- แพรกษา-สุขุมวิท, รถไฟฟ้าสายดอนเมือง-ศรีสมาน, รถไฟฟ้าสายพระโขนง-ศรีนครินทร์ และรถไฟฟ้าสายเทพารักษ์-ราษบูรณะ
ขณะเดียวกัน ยังมีเส้นทางต่อขยาย 8 เส้นทาง อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยาย ช่วงบางหว้า-รัตนาธิเบศร์-แยกปากเกร็ด, รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงมีนบุรี-ลาดกระบัง, รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงงเมืองทอง-บางบัวทอง, รถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ช่วงบางใหญ่-บางบัวทอง และรถไฟฟ้าสายสีทองส่วนต่อขยาย ช่วงคลองสาน-ศิริราช







