หอการค้าไทย-จีน เผยประชุมเจ้าสัวโลก คาดหอบเงินลงทุนเข้าไทยกว่าแสนล้านบาท

หอการค้าไทย-จีน เผยประชุมเจ้าสัวโลก คาดหอบเงินลงทุนเข้าไทยกว่าแสนล้านบาท

ปธ.หอการค้าไทย-จีน คาดประชุมนักธุรกิจไทยจีนสร้างเม็ดเงินสะพัด 500 ล้านบาท แต่ในระยะยาวจะดึงเงินทุนต่างชาติเข้าไทยกว่าแสนล้าน เผยนักลงทุนจีน สนใจลงอุตสาหกรรมรถยนต์อีวีในไทย

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย–จีน  กล่าวในระหว่างการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า การจัดประชุมในวันนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 3,000 คน ประกอบด้วย นักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน นักธุรกิจชาวจีน และนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเล จากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นการรวมพลังของนักธุรกิจชาวจีนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

คาดว่าเฉพาะการจัดงานช่วง 4-5 วันนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายดึงชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาท และขอให้นักลงทุนที่มีความต้องการเข้ามาลงทุนในไทย จะมีความมั่นคงทางธุรกิจ และสามารถลงทุนได้ในระยะยาว

สำหรับการลงทุนของไทยและจีน ที่ต้องจับตา คือ เรื่องยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เนื่องจากมี 3 ค่ายใหญ่ สนใจเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งที่ผ่านมา หอการค้าไทย-จีน ได้มีการเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดเด่น ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า โดยเสนอสิทธิพิเศษทางภาษีให้กับภาคเอกชน คาดว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า รถยนต์อีวี จะเข้ามาแบ่งสัดส่วนในตลาดยานยนต์มากกว่า 50%

ทั้งนี้นักธุรกิจชาวจีน นับว่ามีความสำคัญต่อบทบาทการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ชาวจีนโลกได้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เข้าใจประเทศไทยได้อย่างลึกซึ้งแล้ว การประชุมครั้งนี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด โดยใช้โอกาสและศักยภาพของนักธุรกิจจีน เพื่อขยายความร่วมมือทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างในมิติต่างๆ เพื่อสร้างประชาคมของนักธุรกิจชาวจีนทั่วโลก และฟื้นฟูความเจริญของจีน

 นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศจีนและประเทศไทยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกันมายาวนาน มีการทำการค้า การลงทุน และเชื่อมโยงสาขาอุตสาหกรรมต่างๆ โดยขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังผลักดันอุตสาหกรรม 4.0 และการลงทุนในพื้นที่ EEC ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ดังนั้นการประชุมในครั้งนี้จะเป็นเวทีให้นักธุรกิจชาวจีนจากทั่วโลกได้มีโอกาสพบปะ และแสวงหาความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุนร่วมกันในอนาคตต่อไป