สหรัฐ จ่อดัน ‘IMF-WORLD BANK‘ คานอำนาจ ‘เจ้าหนี้โลก’ จากจีน

“เจเน็ต เยลเลน” เดินหน้าผลักดัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) คานอำนาจจีนในฐานะ "เจ้าหนี้" ของกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนาหลายแห่ง ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โลก
Key Points
- เจเน็ต เยลเลน เดินหน้าดันกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก คานอำนาจจีน
- จีนเป็นผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนาหลายแห่ง
- จีน-สหรัฐ อยู่ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์-สงครามชิปโลก
ท่ามกลางความขัดแย้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าที่ปรับตัวตึงเครียดมากขึ้น วันนี้ (13 มิ.ย.) เจเน็ต เยลเลน(Janet Yellen) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในประเด็นดังกล่าวว่า จะใช้สถาบันการเงินระหว่างประเทศอย่าง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) เพื่อคานอำนาจกับจีน
เยลเลนต้องการใช้หน่วยงานทางการเงินดังกล่าวเพื่อทัดทานอิทธิพลของประเทศจีนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่เธอพยายามรวบรวมเสียงสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อให้การสนับสนุนบรรดาธนาคารพาณิชย์ในประเทศ
ในระหว่างการตอบข้อซักถามจาก ส.ส. จากพรรครีพับลิกัน เยลเลนกล่าวชื่นชมไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกว่าเป็นสถาบันการเงินที่สะท้อนถึงค่านิยมของชาวอเมริกัน
“สถาบันการเงินระหว่างประเทศเหล่านั้นนับเป็นวิธีการหลักของสหรัฐในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา” เยลเลนกล่าว พร้อมเสริมว่า
“คณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ(IFIs) ควรจะจัดหาทรัพยากรให้กับสถาบันทั้งสอง เพื่อรับมือกับความท้าทายปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจไป หรือการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวจะช่วยให้ธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟสามารถถ่วงดุลอิทธิพลของประเทศที่ปล่อยเงินกู้อย่างไม่โปร่งใสและไม่ยั่งยืนเช่นจีนได้”
ถ้อยแถลงรัฐมนตรีฯ คลังครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการเปิด “แนวรบสำคัญ” ระหว่างสหรัฐและจีน โดยทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจแข่งขันกันเพื่อสร้างอิทธิพลในประเทศกำลังพัฒนา โดยขณะนี้จีนกลายเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ที่สุดแก่บรรดาประเทศรายได้ต่ำทั่วโลก
ความกังวลของ “รีพับลิกัน”
แม้ว่าเยนเลนจะเห็นถึงความสำคัญของสถาบันการเงินทั้ง 2 อย่างมาก แต่บรรดา ส.ส. จากพรรครีพับลิกันซึ่งปัจจุบันเป็นคณะกรรมการควบคุมในสภาฯ (Committees in the House) วิพากษ์วิจารณ์ธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟว่า “ปฏิบัติงานผิดวัตถุประสงค์ในตอนแรกที่สร้างขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศกําลังพัฒนา”
อย่างไรก็ดี เยลเลนสนับสนุนแผนการขยายขอบเขตการดำเนินงานของธนาคารโลกไปนอกเหนือจากการดำเนินโครงการแบบรายประเทศ โดยต้องการให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคีทุกแห่ง (Multilateral Development Banks) สนับสนุนการทำงานแบบข้ามพรมแดนเพื่อจัดการกับภัยคุกคามในวงกว้าง เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและโรคระบาด เป็นต้น
ทั้งนี้ เยลเลนยังคงตั้งคําถามกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลของโจ ไบเดน (Joe Biden) เกี่ยวกับจีนบางประเด็น โดยที่ผ่านมาเธอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารท่านอื่น ๆ สรุปแนวทางการจำกัดจีนไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยีซึ่งมีความละเอียดอ่อนของสหรัฐ เนื่องจากความกังวลเรื่องความมั่นคงของชาติ ท่ามกลางการลดการพึ่งพาจีน โดยเฉพาะสินค้าและวัสดุที่สําคัญ







