ปตท.ลุยศึกษา ChatGPT พร้อมใช้ AI ต่อยอดธุรกิจ

ปตท.ลุยศึกษา ChatGPT พร้อมใช้ AI ต่อยอดธุรกิจ

ปตท.ระบุ AI เป็นเทรนด์สำคัญเอื้อธุรกิจ เผยศึกษาการใช้โอเพนเอไอ ว่าเหมาะสมกับองค์กรขนาดใหญ่หรือไม่ เหตุยังมีปัจจัยความปลอดภัยของข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญา

นายบุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปัจจัยดิจิทัล ดิสรัปชันปัจจุบันการดำเนินธุรกิจขององค์กรใหญ่ต่างให้ความสำคัญในเรื่องของเทคโนโลยีโดยเฉพาะในเรื่องของ Artificial Intelligence (AI) เป็นสำคัญ ซึ่งกลุ่มปตท. ได้เล็งเห็นความสำคัญของการนำเอไอมาให้ประโยชน์โดยสนับสนุนกลุ่มธุรกิจใหม่ของปตท.ตามวิสัยทัศน์ Powering Life with Future and Beyond

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม ปตท.ได้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ดังนั้นเอไอจะเข้ามาสนับสนุนในด้านการใช้พลังงานทดแทน การพัฒนาแบตเตอรี่ เพื่อสู่เป้าหมาย Net Zero เพราะเอไอจะช่วยให้ธุรกิจเป็นสมาร์ทซิตี้มากขึ้น อาทิ สมาร์ท เอ็นเนอจี้ หรือสมาร์ท กริด เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวได้ถูกขับเคลื่อนโดยเอไอ ที่มีอยู่ในกลุ่มปตท. อยู่แล้ว

นายบุรณิน กล่าวว่า สำหรับเทรนด์การนำ ChatGPT มาใช้ในภาคธุรกิจปัจจุบันนั้น หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่การนำโอเพนเอไอมาใช้อาจจะยังไม่เหมาะสม ซึ่งกลุ่ม ปตท.อยู่ระหว่างศึกษาในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน โดยเริ่มจากการให้ความรู้กับพนักงานเกี่ยวกับการใช้เอไอว่า จะเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานได้อย่างไร พร้อมกับดูว่าเอไอที่จะใช้ในการทำงานควรจะเป็นโอเพนเอไอหรือควรเป็นเอไอระบบปิด เนื่องจากการใช้ข้อมูลเอไอยังมีเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลโดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่

“องค์กรขนาดใหม่มักคำนึงถึงความปลอดภับของข้อมูล การนำข้อมูลบริษัทไปถามอาจจะต้องรอบคอบ แต่หากเป็นข้อมูลในเรื่องพื้นฐานทั่วไปก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เอไอ จะค่อยๆ ฉลาดขึ้น ซึ่งวันนี้เอไอที่มีอยู่จะขึ้นอยู่กับระดับของข้อมูลที่มีและอาจจะยังไม่อัพเดท แต่ก็สามารถปรับเป็นโครงไว้ได้ และจะต้องมาจูนว่าข้อมูลนั้นถูกหรือไม่ถูก และควรจะใส่อะไรเข้าไปใหม่หรือไม่ อย่างไร ที่อัพเดทกว่าเดิม เป็นต้น”

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.ดำเนินธุรกิจและปรับตัวตามเทรนด์ ดังนั้น ฐานข้อมูลที่ป้อนเข้าไปให้กับเอไอ เสมือนมันสมองมนุษย์ที่แมชชีนเลิร์นนิง ซึ่ง ChatGPT ก็เลียนแบบเสมือนสมองมนุษย์ ดังนั้น การใช้เอไอถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากเป็นบริษัทใหญ่ ๆ การจะใช้เอไออาจจะต้องดูปัจจัยความถูกต้อง จริยธรรม และความปลอดภัย เพราะบางอย่างยังมีประเด็น โดยเฉพาะเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งการนำข้อมูลมาใช้ข้อมูลที่นำมามีความถูกต้องมากน้อยแค่ไหน อย่างไร เป็นต้น

นายบุรณิน กล่าวว่า กลุ่มปตท.ได้ผลักดันการลงทุน AI & Robotics และจะช่วยสร้าง Ecosystem ของไทยให้แข็งแกร่ง และผลักดัน Thailand 4.0 พร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทย ทั้งนี้ ได้ปรับโครงสร้างบริษัท เมฆา วี จำกัด (MEKHA V) เพื่อรองรับการลงทุน AI & Robotics ตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ของ ปตท. ซึ่งจะทำหน้าที่ผลักดันธุรกิจ AI & Robotics ในอุตสาหกรรมต่างๆ และให้บริการทั้ง Cloud, Digital platform และ application รวมถึง Energy อย่างครบวงจร บริหารจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

สำหรับ เมฆา วี ได้ร่วมกับกลุ่ม Envision นำแพลตฟอร์ม EnOSTM ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ AloT ของ Envision Digital มาใช้ในการบริหารจัดการระบบพลังงานหมุนเวียนในอาคารต้นแบบ M4 ที่สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) จ.ระยอง ได้แก่ แผงเซลล์แสงอาทิตย์ลอยน้ำ แผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา ระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึงสถานีชาร์จไฟฟ้า (อีวี) ภายในสถาบันฯ

นอกจากนี้ บริษัท พีทีที เรส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.ที่ร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี (ไทยแลนด์) จำกัด โดยจะให้บริการโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับการทำ Digital Transformation แบบครบวงจร เพื่อให้บริการ ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยด้วย AI โดยเตรียม 4 บริการหลัก ได้แก่ Robotics, Automation, IOT และ AI ซึ่งลูกค้าจะแจ้งว่าต้องการนำเทคโนโลยีใดแก้ไขปัญหาหรือเพิ่มประสิทธิภาพงาน และพีทีที เรส จะให้คำปรึกษาและออกแบบโซลูชันให้เหมาะกับแต่ละลักษณะการใช้งาน