บิ๊กคอร์ปไทย ตื่นลงทุน AI เขย่าโลก สร้างแต้มต่อธุรกิจ

บิ๊กคอร์ปไทย ตื่นลงทุน AI เขย่าโลก สร้างแต้มต่อธุรกิจ

ภาคธุรกิจไทยตื่นตัวรับ AI มั่นใจ generative AI มาแน่ 'ค่ายมือถือ’ สร้างแต้มต่อธุรกิจ “แบงก์” ใช้ตอบโจทย์ลูกค้า ดูธุรกรรมซับซ้อน เสี่ยงฟอกเงิน “กลุ่มรีเทล” ทุ่มลงทุนคลังข้อมูล พัฒนาบริการสู้คู่แข่ง “วงการแพทย์” ช่วยแพทย์คัดกรอง เพิ่มความแม่นยำวินิจฉัยโรค

Key Points

  • ภาคธุรกิจของไทยมีความตื่นตัวในการลงทุนเทคโนโลยี AI เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหลังการมาของ ChatGPT และ Generative AI
  • ความปลอดภัยของข้อมูลยังเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทขนาดใหญ่ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนจะมีการนำ ChatGPT มาใช้งาน
  • ธุรกิจสถาบันการเงินมีแผนใช้ AI ใช้ตอบโจทย์ลูกค้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการโจทย์ลูกค้า รวมถึงดูแลธุรกรรมซับซ้อน เสี่ยงต่อการฟอกเงิน
  • กลุ่มธุรกิจรีเทล ได้มีการทุ่มลงทุนคลังข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งมีการประมวลผลเพื่อพัฒนาบริการสู้คู่แข่ง และเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการซื้อสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ความร้อนแรงของ ChatGPT กระตุ้นให้ภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับการลงทุนปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มากขึ้น โดยธุรกิจทั่วโลกยอมรับว่าอยู่ในช่วงการสำรวจและศึกษาเทคโนโลยี Generative AI ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ชุดข้อมูลที่มีสำหรับ “สร้างใหม่” เพื่อตอบโจทย์แต่ละธุรกิจ

สำหรับความตื่นตัวด้าน AI กระจายไปในผู้ประกอบการทุกกลุ่มในไทย ไม่ว่าจะโทรคมนาคม ธนาคาร ภาคการผลิต ภาคการค้า การท่องเที่ยว รวมไปถึงการแพทย์

นายบุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มปตท.ผลักดันลงทุน AI & Robotics เพื่อสร้าง Ecosystem ของไทยให้แข็งแกร่ง โดยจะรองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ดังนั้น AI จะช่วยให้ธุรกิจเป็นสมาร์ทซิตี้มากขึ้น เช่น สมาร์ทเอ็นเนอจี้ , สมาร์ทกริด

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท.ได้ศึกษาเทรนด์การนำ ChatGPT มาใช้ในภาคธุรกิจ โดยองค์กรใหญ่ที่ใช้โอเพนเอไออาจยังไม่เหมาะ แต่ก็ได้ศึกษาเริ่มจากการให้ความรู้พนักงานเกี่ยวกับการใช้ AI จะเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานได้อย่างไร พร้อมกับประเมินว่าควรใช้โอเพนเอไอหรือควรใช้ระบบปิด เพราะมีประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลโดยเฉพาะในองค์กรใหญ่

“ฐานข้อมูลที่ป้อนให้ AI เสมือนมันสมองมนุษย์ที่แมชชีนเลิร์นนิง ซึ่ง ChatGPT เลียนแบบเสมือนสมองมนุษย์ ดังนั้น การใช้ AI เป็นเรื่องสำคัญ แต่บริษัทใหญ่จะดูปัจจัยความถูกต้อง จริยธรรมและความปลอดภัย รวมถึงประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาของข้อมูลที่นำมาใช้" นายบุรณิน กล่าว บิ๊กคอร์ปไทย ตื่นลงทุน AI เขย่าโลก สร้างแต้มต่อธุรกิจ

“เอไอเอส-ทรู”สร้างแต้มต่อธุรกิจ

บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ AI เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า วิสัยทัศน์ Cognitive Tech-Co ของ เอไอเอส  คือ การก้าวข้ามทุกข้อจำกัด เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการดีที่สุดให้ลูกค้า พร้อมเติมเต็ม อีโคซิสเตม อีโคโนมี

“โดยเฉพาะเน็ตเวิร์กต้องอินเตอร์แอคทีฟ หรือสร้างการมีส่วนร่วมลูกค้าตลอดเวลา สร้างรูปแบบบริการเฉพาะบุคคลแบบ Personalization ของลูกค้าได้ตรงใจและตอบสนองเรียลไทม์"

ทั้งนี้ เพื่อให้เท่าทันทุกความต้องการลูกค้า ใช้เทคโนโลยี Autonomous Network Monitoring ตรวจปริมาณการใช้งานลูกค้าแบบเรียลไทม์เพื่อจัดสรร Capacity ของเน็ตเวิร์กได้อัตโนมัติ หรือแม้แต่งานบริการลูกค้าแบบ Intelligent Service นำเอไอ มาตรวจสอบแก้ปัญหาแบบ Smart Diagnostics

นายอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายขับเคลื่อนนวัตกรรม เอไอเอส กล่าวว่า การทำ Digitalization ไม่เพียงเป็นการ Transform Business Process ให้คล่องตัวขึ้นจากเทคโนโลยีดิจิทัล แต่ใครนำเอไอผนวกได้จะสร้างโอกาสเป็น Top Performing ได้มากกว่า 4 เท่า รวมทั้ง AI จะ Collaboration ระหว่าง Human และ Machine เพิ่มขีดความสามารถและทรานส์ฟอร์มองค์กร

นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ทรู วางแผนนำ เอไอ ใช้งาน 3 กลุ่ม ได้แก่ สุขภาพ ค้าปลีก และภาคเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปทำงานร่วมกับพันธมิตรในแต่ละภาคธุรกิจในการเตรียมความพร้อมเพื่อนำเอไอเข้าไปใช้งาน

เริ่มต้นจากธุรกิจสุขภาพอย่างระบบ เทเลเมดิซีน โดยที่ผ่านมานำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยในกรณีที่แพทย์ต้องการข้อมูลเอกซเรย์ คนไข้สามารถส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตที่ปัจจุบันรองรับการส่งไฟล์ความเร็วสูงขึ้น ทำให้แพทย์ดูข้อมูลและวินิจฉัยได้ทันที ส่วนขั้นถัดไปเริ่มเห็นการนำมาช่วยวินิจฉัยโรคเบื้องต้น เช่น ฟิล์มเอกซเรย์

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมา บริการเกี่ยวกับเทเลเมดิซีนของทรู ดิจิทัล มีผู้ที่สนใจเข้ามาใช้งานแล้วกว่า 4 แสนราย ในจำนวนนี้กว่า 10% ได้พูดคุยกับแพทย์เพื่อเริ่มกระบวนการรักษา และมีราว 4,000 รายที่จบขั้นตอนถึงกระบวนการสั่งยาไปส่งที่บ้าน บิ๊กคอร์ปไทย ตื่นลงทุน AI เขย่าโลก สร้างแต้มต่อธุรกิจ

"บิทคัพ"พัฒนาแพลตฟอร์มเอไอ

นายสกลกรย์ สระกวี ผู้ก่อตั้งและประธาน บริษัท บิทคับ แคปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า บิทคับกำลังลงทุนแพลตฟอร์ม AI เพื่อให้ลูกค้าที่อยากมี AI นำไปใช้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทกำลังทดลองใช้ในองค์กรของบิทคับ หากประสบความสำเร็จจะนำเสนอแพลตฟอร์ม AI ให้ลูกค้าที่สนใจ ซึ่งเริ่มมีลูกค้าและพันธมิตรของบริษัทเข้ามาพูดคุยหลายรายเพื่อให้บิทคับพัฒนาระบบ AI ให้

“เทรนด์ AI ต้องมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจแน่นอน ดังนั้น มองว่าทุกองค์กรจะต้องทรานฟอร์มตัวเองยังไงให้อยู่ได้"

ดังนั้น อะไรที่จะเข้ามาช่วยมนุษย์ลดเวลาได้ แต่มนุษย์ก็ยังมีอยู่ในองค์กรเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าระบบ AI จะเข้ามาช่วยลดเวลาและให้พนักงานขององค์กรไปโฟกัสในสิ่งที่ระบบ AI ยังไม่สามารถทำแทนได้ ซึ่งก็จะช่วยให้พนักงานมีเวลาไปทำงานอย่างอื่นที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจได้มากขึ้นอีก”

“แบงก์”ลุยนำ AI ต่อยอดธุรกิจ

“อุตสาหกรรมแบงก์” ปรับโครงสร้างธุรกิจต่อเนื่อง มีการนำ “เทคโนโลยี” นวัตกรรมใหม่มาใช้มากขึ้น เพื่อเน้นการตอบโจทย์ผู้บริโภค  ดังนั้น AI เป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อธุรกิจแบงก์

นายพิพิธ อเนกนิธิกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า องค์กรที่ไม่ใช้ AI จะเสียโอกาสในการพัฒนา,เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก โดยธนาคารกสิกรไทยกำลังพัฒนาการนำ AI มาเพิ่มประสิทธิภาพ และนำ Generative AI มาสร้างเครื่องมือช่วยเหลือ เช่น การทำแคมเปญที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า

นอกจากนี้ KBTG เห็นแนวคิด Augmented Intelligence คือการที่มนุษย์กับ AI ทำงานร่วมกัน โดย AI ให้ข้อมูลช่วยให้ตัดสินใจดีขึ้น และเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจการนำ AI ไปใช้งาน หรือ AI Literacy ให้เกิดในวงกว้าง

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า Machine Learning automation AI เป็นสิ่งที่กรุงไทยพูดมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา และทำต่อเนื่องเพราะจะช่วยในการ personal life ตอบโจทย์ชีวิตส่วนตัว อำนวยความสะดวก Convenient และลดต้นทุนการให้บริการ

ดังนั้นกรุงไทยต้องเร่งนำมาใช้ operation มากขึ้น ดังนั้น การนำ AI มาใช้กับธนาคารจำเป็นมาก โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพและหากไม่มีการนำ AI มาใช้ เชื่อว่าจะมีความท้าทายมาก บิ๊กคอร์ปไทย ตื่นลงทุน AI เขย่าโลก สร้างแต้มต่อธุรกิจ

นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ดูแลกลุ่มธุรกิจลูกค้าบุคคลธนาคารทหารไทยธนชาต กล่าวว่า AI มีหลายระดับที่นำมาใช้ได้ ซึ่งระบบพื้นฐาน เช่น chatbot เชื่อว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้า การตอบคำถามของลูกค้ากว่า 80% จะตอบโดย AIchatBot และอีกตัวที่ได้ประโยชน์มาก คือ Robotic Process Automation หรือการให้คอมพิวเตอร์ทำงานแทนเรา

ทั้งนี้ ในอนาคตการใช้ generative AI อย่าง chapGPT จะกว้างขว้างขึ้น เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่ตอบคำถามหรือหาข้อมูลหรือแนะนำผลิตภัณฑ์การเงินตรงความต้องการลูกค้า ดังนั้น การแข่งขันหลังจากนี้จะใช้ insight data และ AI

นายเปาว์ ศรีประเสริฐสุข SVP ผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรม ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า จะนำ AI มาใช้ เช่น ช่วยดูธุรกรรมที่ซับซ้อนและมีปริมาณธุรกรรมมหาศาล หรือดูธุรกรรมที่เกี่ยวกับฟอกเงิน ตลอดจนนำมาใช้เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งล่าสุดใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของดาต้าหรือการยืนยันตัวตนผ่านใบหน้า เพื่อใช้ในธุรกรรมการเงิน

"มองความจำเป็นของ AI ค่อนข้างมาก และสำคัญมากในธุรกิจแบงก์ และหลายอุตสาหกรรม เริ่มใช้ AI มากขึ้น ดังนั้นหากแบงก์หรือธุรกิจไม่ปรับตัวจะอยู่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การพัฒนาบุคลากรให้ใช้ AI ได้มีประสิทธิภาพ"

“รีเทล”รุกลงทุน“เอไอ”เต็มที่

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์พัฒนา AI นำมาใช้ร่วมกับฐานข้อมูลเพื่อให้บริการลูกค้าเรียลไทม์ เช่น ระบบ Shopping Assistant ทำให้พนักงานรู้ใจลูกค้ามากขึ้น ใช้ AI ให้คำแนะนำสินค้าหรือบริการ ผสานความสามารถพนักงานที่ให้บริการแบบ Human Touch สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

“เป็นการสร้างจุดแข็งของเดอะมอลล์ที่เพิ่มความพึงพอใจและเพิ่มยอดขายได้ต่อเนื่อง พร้อมนำ AI มาใช้กับกระบวนการทำงานภายใน ลดงานทำซ้ำ เช่น งานระบบบัญชี งานจัดซื้อ เพื่อให้พนักงานโฟกัสงานที่มีความสำคัญและลดข้อผิดพลาด”

ทั้งนี้ เดอะมอลล์ ลงทุน AI ทั้งพัฒนาภายในองค์กร และการเลือก AI ร่วมถึงเทคโนโลยีอื่น โดยหาโซลูชั่นจากทั่วโลก เช่น จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, สหรัฐ, อิสราเอล รวมทั้งจัดทำ เมตาเวิร์สแพลตฟอร์ม MNIVERSE โลกเสมือนจริงเชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล 3D-IMMERSIVE-INTERACTIVE WEB 3.0 เป็นรีเทลแรกในไทยที่พัฒนาบริการนี้

ด้านบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) มียุทธศาสตร์รีเทลเทค มุ่งสู่แพลตฟอร์ม Next-Gen Omnichannel เชื่อมโลกออฟไลน์ ออนไลน์ และ Metaverse ธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ทั้งไทย เวียดนามและอิตาลี ภายใต้งบลงทุน 10,000 ล้านบาท ในช่วง 5 ปี (2565-2569) รวมถึงลงทุนพัฒนาโปรแกรม CRC Artificial Intelligence เพื่อนำเสนอคอนเทนต์และให้คำแนะนำลูกค้าผ่านแพลตฟอร์ม Next-Gen Omnichannel ที่เชื่อมทั้งออนไลน์ หน้าร้าน และโซเชียลมีเดีย

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทพยายามนำระบบแบบเก่าปรับเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อดูข้อดีข้อเสีย เพื่อนำมาปรับปรุงในการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาทดลองใช้ AI มาช่วยก็เห็นความง่ายและสะดวกในการบริหารจัดการ ซึ่งการมาของเทคโนโลยีใหม่จะช่วยทำงานให้พนักงานทำงานได้ง่ายและเร็วขึ้น

“เอไอ”ผู้ช่วยส่วนตัวนักท่องเที่ยว

สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว AI มีบทบาทอย่างมากทุกขั้นตอน โดยเห็นได้จากบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันได้ลงทุน AI เพื่อเก็บข้อมูลนำมายกระดับบริการ รวมถึงช่วยนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Chatbot

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคปปิตอล เอ บริษัทแม่ของกลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า แคปปิตอล เอ ได้แถลงข่าวอำลา AirAsia Virtual Allstar (AVA) ซึ่งเป็น AI Chatbot ตัวแรกของแอร์เอเชีย พร้อมต้อนรับ “Ask Bo”  โดยได้พัฒนาปรับปรุง AI และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) ให้ดีขึ้นเพื่อตอบสนองผู้โดยสาร

นายเคซาวัน สิวะนันดัม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายท่าอากาศยานและประสบการณ์ลูกค้า กลุ่มแอร์เอเชีย เอวิเอชั่น กล่าวว่า Ask Bo จะให้ข้อมูลอัปเดตสดเกี่ยวกับสถานะเที่ยวบิน และการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการขึ้นเครื่องในภาษาต่างๆ มากขึ้น ได้แก่ อังกฤษ จีน บาฮาซา ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม

หุ่นยนต์เอไอตอบโจทย์ร้านอาหาร

นายวิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทนำหุ่นยนต์เข้ามาช่วยเสิร์ฟอาหารมากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีใช้ในการชำระเงินระบบแคชเลส

ทั้งนี้ ร้านอาหารยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์ขนำ AI และหุ่นยนต์มาใช้เสิร์ฟอาหาร อย่างบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่นำมาใช้ 1,000 ตัว จากปี 2565 มีอยู่ 800 ตัว ช่วยรองรับขาดแคลนแรงงาน ซึ่งหุ่นยนต์ 1,000 ตัว ทดแทนการรับพนักงานใหม่ 1,500 คน

ด้านบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด นำเทคโนโลยีมาใช้ โดยมี AI หรือ Robot Service เสิร์ฟอาหารที่ร้านคัตสึยะ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ในชื่อ “น้อง Smile”

ขณะที่บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารปิ้งย่างบาร์บีคิวพลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท เรดซัน นำเทคโนโลยีมาใช้สำหรับลูกค้าบริการตนเอง เช่น การดูเมนู สั่ง-ส่งออเดอร์เข้าครัว และชำระเงินด้วยตัวเอง เพื่อให้พนักงานทำหน้าที่เสิร์ฟอาหาร บริการลูกค้าได้เต็มที่

รพ.เอกชนยกระดับรักษาด้วยเอไอ

วงการแพทย์ไทยนำเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึง AI มาหลายปีก่อนจนกระท่ังมีโควิด-19 ทำให้ใช้งานจริงจังขึ้น ทำให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเทเลเมดิซีนและ AI ขณะที่ภาคเอกชนได้ลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุตโฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า นำ AI มาใช้ทางการแพทย์ 2 ตัว คือ

1.AI เอ็กซเรย์ปอด ที่เมื่อมีเอ็กซเรย์เสร็จจะช่วยสกรีนชี้บอกตำแหน่งหรือส่วนที่น่าจะผิดปกติ

2.AI ตรวจคัดกรองเซ็คอัพตรวจร่างกาย รวมทั้งวิมุตกำลังพิจารณาสตาร์ตอัพไทยที่จะร่วมลงทุนพัฒนา AI ทางการแพทย์ และพร้อมนำร่องการร่วมพัฒนา AI อื่นๆ

ทั้งนี้ AI ได้เข้ามาระยะหนึ่งแล้วและเข้าสู่ทุกวงการรวมถึงทางการแพทย์ แบ่งเป็น

1.Basic AI เช่น ในสถานการณ์โควิดระบาดหนักนำ AI มาเรียนรู้คำถามจากผู้ป่วยและแนะนำว่าการดูแลอาการ และถ้ายกระดับขึ้นจะช่วยวินิจฉัน 

2.Generative AI ที่เป็นการประมวลผล เช่น การวินิจฉัยผลแล็ป แต่ยังไม่ใช้ในไทย

พญ.จามรี เชื้อเพชระโสภณ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลเมดพาร์ค ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ได้นำ AI มาใช้กว้างขวาง เพราะเป็นโรงพยาบาลรักษาโรคซับซ้อน โดยเวลาซื้อเทคโนโลยี 80-90% โดยเฉพาะเทคโนโลยีระดับสูงจะฝัง AI เช่น การฉายแสงผู้ป่วย มีระบบ AI ดูการหายใจ เพื่อคำนวณการฉายแสงได้ตรงจุด

รวมทั้งโปรแกรมการคำนวณความหนาของร่างกายคนไข้ว่าจะต้องปล่อยแสงเอกซเรย์มากน้อยแค่ไหน และใหม่ที่สุด คือ การรักษาผู้มีบุตรยาก ในศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (MedPark IVF) เช่น การวิเคราะห์การผสมตัวอ่อน ดูความแข็งแรง และโอกาสจะฝังตัวหรือตั้งครรภ์ ทำให้โอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงขึ้น

​"ในอนาคตเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำ AI มาใช้เพิ่ม โดยตั้งใจจะนำ Information Technology มาใช้ในส่วนต่างๆ

ทั้งนี้ เพราะ AI ไม่ใช้แค่วิเคราะห์ภาพแต่ยังนำมาใช้ใน Workflow เช่น การช่วยแพทย์อ่านและคัดเลือกฟิล์มเอกซเรย์ที่มีความผิดปกติมากที่สุด เพื่อวินิจฉัยได้แม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งเป็นแนวคิดนำ AI มาใช้ให้มีประสิทธิภาพขึ้น และได้ผลเพิ่ม Value ให้กับผู้ป่วย เสริมกระบวนการดูแลให้ดีขึ้น

นายชัยวัฒน์ พู่พิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เพอเซ็ปทรา จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และบิ๊กดาต้า มองว่า ในอาเซียนพบว่าไทยเป็นอันดับ 1 ในการนำ AI มาใช้ทางการแพทย์