'ทีดีอาร์ไอ'ห่วงรัฐบาลใหม่งบสวัสดิการพุ่ง สร้าง 'ภาระการคลัง' ระยะยาว

'ทีดีอาร์ไอ'ห่วงรัฐบาลใหม่งบสวัสดิการพุ่ง สร้าง 'ภาระการคลัง' ระยะยาว

“ทีดีอาร์ไอ”ห่วงงบสวัสดิการสูงส่งผลเสียระยะยาว ชี้นโยบายการจัดสวัสดิการถ้วนหน้าควรมีแค่บางนโยบาย เช่น การศึกษา ส่วนนโยบายอื่นควรให้เฉพาะกลุ่มคนที่มีความจำเป็น จะตอบโจทย์การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้มากกว่า

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า นโยบายการจัดสวัสดิการที่พรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลมีประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างน้อย 2-3 ประเด็น ประกอบด้วย

1.การใช้งบประมาณจำนวนมากอาจจะกระทบฐานะการคลังประเทศ โดยนโยบายนี้หากทำในวงเงินที่สูงมากต่อเนื่องเป็นเวลานานจะกระทบต่อการคลังของประเทศได้

2.นโนบายสวัสดิการในทางวิชาการต้องมีหลักเกณฑ์พิจารณาใครเป็นผู้เหมาะสมได้รับสวัสดิการการช่วยเหลือจากรัฐ และหากสมควรได้รับควรได้รับจำนวนเงินเท่าไหร่จึงเหมาะสม ที่สำคัญการให้การช่วยเหลือนั้นมีความซ้ำซ้อนกับสวัสดิการอื่นที่ได้รับหรือไม่

ทั้งนี้การให้สวัสดิการกับประชาชนภาครัฐต้องพิจารณาให้รอบครอบเพราะมีบางนโยบายที่ให้ทุกคนโดยเท่าเทียมได้เช่นนโยบายอุดหนุนการศึกษา

หรือการให้เงินกับเด็กแรกเกิดถ้วนหน้า แต่บางนโนบายไม่จำเป็นต้องให้สวัสดิการทุกคน แต่ต้องให้เฉพาะเจาะจงอย่างแม่นยำ

เช่น การให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มเประาบาง ซึ่งการช่วยเฉพาะกลุ่มจะทำให้ภาครัฐไม่ต้องใช้งบประมาณมากเกินไป

“การให้สวัสดิการหรือการช่วยเหลือจากภาครัฐที่ผ่านมามีส่วนที่ยังขาดประสิทธิภาพและต้องแก้ไข เช่น ผู้ที่ควรได้แต่ตกหล่นเข้าไม่ถึง สวัสดิการ หรือมีผู้ที่ไม่ควรได้รับจึงต้องแก้ไขส่วนนี้ด้วย ขณะเดียวกันการให้ความช่วยเหลือต้องเหมาะสมกับเวลา คือ ตอบโจทย์ความเร่งด่วนในปัจจุบันมากน้อยขนาดไหน” นายนณริฏ กล่าว