“เลนส์แว่นตา” มาแรง ใช้สิทธิ GSP ส่งออกสหรัฐ สูงถึง132.95%

“เลนส์แว่นตา” มาแรง ใช้สิทธิ GSP ส่งออกสหรัฐ สูงถึง132.95%

ตลาดสหรัฐ นำโด่งไทยใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP ใช้สิทธิมาก สูงถึง 457.82 ล้านดอลลาร์ จับตาสินค้า”เลนส์แว่นตา” เลนส์แว่นตา” สินค้าน่าจับตามอง ใช้สิทธิ GSP ส่งออกสหรัฐฯ ขยายตัวสูงถึง 132.95%

ตลาดสหรัฐถือเป็นตลาดสำคัญของไทย แม้ว่าที่ผ่านจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงนี้ บั่นทอนกำลังซื้อในตลาดสหรัฐ โดยในช่วง  4 เดือนที่ผ่านมาการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐติดลบต่อเนื่อง แต่เดือนมี.ค.ตลาดสหรัฐพลิกกลับมาเป็นบวกได้ 1.7 %  มูลค่า 4,520 ล้านดอลลาร์

เครื่องมือสำคัญในการสร้างแต้มต่อของไทยคือ การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ที่ไทยได้รับในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช โดยช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ปี 256 มีการใช้สิทธิมีมูลค่ารวม 496.71 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ สูงถึง 52.36%

โดยตลาดที่ไทยมีการใช้สิทธิ GSP ส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือสหรัฐฯ มีมูลค่า 457.82 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 91.61% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ GSP

“เลนส์แว่นตา” มาแรง ใช้สิทธิ GSP ส่งออกสหรัฐ สูงถึง132.95%

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ   กล่าวว่า   การใช้สิทธิ GSP ในการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ สินค้าครองแชมป์อันดับ 1 ยังคงเป็นส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ มูลค่าการใช้สิทธิ 44.31 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 176.24% อย่างไรก็ตามขณะนี้สินค้าที่มีความโดดเด่นและน่าจับตามองไม่แพ้กัน คือเลนส์แว่นตา ซึ่งมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 19.95 ล้านดอลลาร์ขยายตัวสูงถึง 132.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยสหรัฐฯ มีการนำเข้าเลนส์แว่นตาจากไทยมากเป็นลำดับที่ 2 รองจากเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประเทศที่ได้รับสิทธิฯ จากสหรัฐฯ ด้วยกันเองแล้ว พบว่าสหรัฐฯ มีการนำเข้าเลนส์แว่นตาจากไทยมากเป็นอันดับ 1 และนอกจากนี้ยังมีสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูงอื่นๆ อีก อาทิ อาหารปรุงแต่ง ถุงมือยาง กรดมะนาว หรือกรดซิทริก เป็นต้น

ทั้งนี้กรมการค้าระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าไทยจะมีแนวโน้มการใช้สิทธิ เพื่อส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังสหรัฐเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสหรัฐยังมีการดำเนินนโยบายตอบโต้ทางการค้าทางด้านภาษีกับจีนอย่างต่อเนื่อง  หากผู้ประกอบการมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสามารถค้นหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือโทรสายด่วน 1385 รวมถึงไลน์แอปพลิเคชันชื่อบัญชี “@gsp_helper

แม้ว่าโครงการ GSP สหรัฐฯ ได้สิ้นสุดอายุไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563 และขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการดำเนินขั้นตอนการต่ออายุโครงการฯ ส่งผลให้ผู้นำเข้าสินค้าที่เคยได้รับสิทธิ GSP สหรัฐฯ จะต้องชำระภาษีในอัตราปกติ (MFN rate) ไปจนกว่าโครงการฯ จะได้รับการต่ออายุ แต่เพื่อเป็นการรักษาสิทธิฯ ผู้นำเข้าสามารถยื่นขอใช้สิทธิ GSP ในการนำเข้าสินค้าได้ตามปกติ โดยที่ ผ่านมาสหรัฐฯ จะทำการคืนภาษีเมื่อโครงการฯ ได้รับการต่ออายุแล้ว

ก่อนหน้านี้ไทยถูกสหรัฐตัดสิทธิตัดสิทธิจีเอสพีในสินค้า 573 รายการดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาหารสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และเซรามิก เป็นต้น แต่ไม่ได้ทำให้ไทยสูญเสียมูลค่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวไปยังสหรัฐฯ ที่ตกปีละเกือบ 40,000 ล้านบาท เพราะไทยยังส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ได้เหมือนเดิม ไม่ใช่ส่งออกไม่ได้เลย เพียงแต่ผู้นำเข้าต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติเฉลี่ยที่ 4.7% จากเดิมที่ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า