‘ร่อนทอง’ สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหน้าร้อนระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอย่างมากจนเห็นหิน ทราบ ดิน โผล่ขึ้นกลางแม่น้ำโขง สามารถเดินข้ามได้ในหลายพื้นที่หลายแห่ง บางแห่ง ทั้งยังมีโขดหินโผล่ขึ้นกลางน้ำ

ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงต้องใช้วิกฤตแล้งมาเป็นโอกาสโดยการลงไปขุดหินเบี้ยหรือหินสวยงามขึ้นมาวางขายที่หน้าบ้านริมถนนชายโขง เส้นยุทธศาสตร์ เลย-หนองคาย รวมทั้งการลงไปร่อนทองคำ ระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. และปีนี้ยาวนานกว่าทุกปีเนื่องจากฝนตกน้อยและไม่มีการปล่อยน้ำมาจากเขื่อน นายภูพิงค์ แก้วดวงจันทร์ อายุ 30 ปี บ้านหาดเบี้ย หมู่ 7 ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย ช่วงหน้าร้อนปีนี้ยาวนานประชาชนได้อาศัยแม่น้ำโขงลงมาทำการแวะดิน หิน ทรายที่พอมีน้ำตื้น ๆ จากนั้นตัดใส่ถังแล้วมาเทลงในภาชนะที่เรียกว่า” บาง” สำหรับการร่อนทอง เริ่มจากการนำหินแห่ หรือก้อนหิน ทรายที่อยู่ริมน้ำ ที่ใช้จอบเล็กๆ ขุดขึ้นมาจากธารน้ำเอามาใส่ถัง และตะกร้า จากนั้นก็นำไปร่อนแยกในน้ำก่อน 1 รอบ และก็นำไปร่อนในน้ำไปเรื่อย

ร่อนไปจนกว่าจะได้เศษหินที่มีแร่ทองคำผสมอยู่สังเกตุเป็นประกาย จากนั้นก็นำปรอทมาคัดแยก มาจับทองให้เป็นก้อน ภาษาท้องถิ่นจะเรียกว่า(บา) มาจับแล้วนำบรรจุปรอท โดยช่วงนี้อากาศร้อนมากเมื่อถึงเวลาประมาณ 16.30 น.จะขึ้นบ้านแต่ละคนจะได้เฉลี่ย 1 กรัม/วัน ขายในราคา 1,200-1,300 บาท/กรัม หรือมีรายได้เฉลี่ย 30,000 บาท/คน/เดือน แต่ละวันหาร่อนทองได้เท่าหัวเม็ดไม้ขีดไฟ หรือน้อยกว่านั้น จะได้มากน้อย แล้วแต่โชคและโอกาส ที่จะได้มา เศษแร่ทองที่ร่อนได้ มาก-น้อยขึ้นอยู่กับใครขยันใครมีเวลาว่างมากก็จะได้เยอะเป็นธรรมดา เมาะกับผู้สูงอายุและผู้ไม่มีงานทำ ขึ้นอยู่กับราคาทองคำในตลาดอีกด้วย 2-3 วันจึงจะรวบรวมไปขายโดยมีผู้รับซื้อคือ ที่ร้านค้าทองคำที่ตัวอำเภอปากชม จ. เลย ส่วนการหาการร่อนทองนั้นจะใช้ริมตลิ่งและในแม่น้ำโขงที่แห้งอยู่เขตของประเทศไทย เท่านั้น หากเป็นโอกาสดีที่ช่วงระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง ชาวบ้านก็มีโอกาสร่อนทองได้มาก ขายได้วันละหลายพันบาท ซึ่งเรื่องแบบนี้มีไม่บ่อยนัก แต่หากน้ำขึ้นหรือทางประเทศจีน ลาว ปล่อยน้ำลงมามากชาวบ้านก็จะขาดรายได้ การร่อนทองมันขึ้นอยู่กับโชควาสนา จริงๆ