ฟาร์ม ‘หนูนา’ ทำรายได้เฉียดแสนบาท!!!!

ช่วงนี้ยุคโควิดทำให้ นาย วัชรพล เทียนทอง อยู่บ้านเปิดฟาร์มหนูนา ชาวบ้านที่ผ่านไปมาต่างต้องแวะซื้อนำไปย่างหรือนำไปทำอาหารให้ครอบครัวได้ทาน หนูนาที่เลี้ยงอุดมสมบูรณ์ อ้วนท้วนเนื้อเยอะ

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดรายงานว่า ได้พบกับ นาย วัชรพล เทียนทอง อายุ 43ปี บ้านเลขที่ 34 หมูที่ 4 ตำบลอู่โลก อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มหนูนา ซึ่งกำลังเตรียมหนูนาที่ตนเพราะพันธุ์เลี้ยงภายในบ้านโชกใต้ เพื่อเตรียมขายให้กับชาวบ้านที่กำลังต้องการหนูนาเพื่อนำไปย่าง หรือนำไปประกอบเป็นอาหารโดยยอดสังออร์เดอร์ทุกวันอย่างไม่ขาดสาย ช่วงนี้ยุคโควิดทำให้ นาย วัชรพล เทียนทอง อยู่บ้านเปิดฟาร์มหนูนา ชาวบ้านที่ผ่านไปมาต่างต้องแวะซื้อนำไปย่างหรือนำไปทำอาหารให้ครอบครัวได้ทาน หนูนาที่เลี้ยงอุดมสมบูรณ์ อ้วนท้วนเนื้อเยอะ

ชาวบ้านที่สั่งไปประกอบเป็นอาหารต่างบอกว่าเนื้อหอมมันอร่อยเพราะเป็นหนูนาที่เลี้ยงแบบ ออร์แกนิคปลอดสารอย่างแน่นอน สัมภาษณ์ นายวัชรพล เทียนทอง อายุ 43ปี บ้านเลขที่34 หมูที่4 ตำบลอู่โลก อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ เป็นเจ้าของฟาร์มหนูนา เล่าว่า เริ่มเปิดฟาร์มหนูมาเข้าปีที่2แล้ว เมื่อก่อนนั้นตนเป็นลูกจ้างทำงานก่อสร้างแบกหาม รวมถึงเป็นช่างสีด้วย ตนเบื่อชีวิตการเป็นลูกจ้างจึงเก็บออมเงิน มาลงทุนเปิดฟาร์มหนูนาขาย แรกๆตอนยังไม่มีคนรู้จักก็จะเงียบๆหน่อย จนมาทุกวันนี้ตนขายทั้งในออนไลน์ จนมีคนสั่งหนู เพื่อนำไปประกอบอาร บอกต่อปากต่อปากจนทุกวันนี้อยู่ได้แบบสบายๆ โดยหนูนาที่นี้จะขายกิโลกรัมละ 250บาท พร้อมชำแหละให้ฟรี ก็ถือว่าไม่แพง เพราะตอนเลี้ยงแรกๆกว่าจะได้ผลผลิตต้องใช้เวลาถึง5เดือนเลยทีเดียว ต่อวันจะขายได้3-4กิโล ทีเด็ดของที่นี้คือหนูย่างเกลือพร้อมทาน และส่งฟรีในอำเภอลำดวน ขายอยูที่ ตัวละ150บาท น้ำหนักก็จะอยู่ประมาณ3-4ขีดถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา และหาทานยากอีกด้วย นายวัชรพล เทียนทอง ทั้งหนูที่ชำแหละและหนูย่างเกลือ ต่อวันยอดสั่งก็ถือว่าเยอะรายได้รวมๆต่อวันประมาณ1-2พันเลยทีเดียว ทำให้ตนมีรายได้ในการจุนเจือครอบครัวจากรายได้จากการขายหนูและจำหน่ายพ่อพันแม่พันธุ์หนู เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่5-6หมื่นบาทเลยทีเดียว ซึ่งถือว่ามากพอที่จะสามารถเลี้ยงจุนเจอครอบครัวได้อย่างสบายๆ