เช็ก 'เงินประกันรายได้เกษตรกร' ส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 29

เช็ก 'เงินประกันรายได้เกษตรกร' ส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 29

อัปเดตต่อเนื่อง! ชาวนาตรวจสอบเงินช่วยเหลือเกษตรกร "เงินประกันรายได้เกษตรกร" ธ.ก.ส.เคาะจ่ายส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 29

ภายหลังจากที่รัฐบาล ได้อนุมัติโครงการ ประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 หรือ ประกันรายได้ข้าว65/66 จ่ายส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" ลงวันที่ 21 พ.ย.65 จาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งได้ดำเนินการโอนเงินตามโครงการประกันรายได้ฯ เข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงใน งวดที่ 1-28 ไปแล้วนั้น "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้รายงานความคืบหน้า โครงการประกันรายได้เกษตรกร การจ่าย "เงินประกันรายได้เกษตรกร" อย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 16/2566 เมื่อวันที่ 28 เม.ย.66 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 ให้ เกษตรกรปลูกข้าว ปี 2565/66 (งวดที่ 29) ดังนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ข้อ 1. ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 28 เมษายน 2566 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว 65/66 ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (งวดที่ 29) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 ที่ระบุวันที่ คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 22-28 เมษายน 2566 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว
  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ นอกพื้นที่ ตันละ 13,622.75 บาท
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,132.26 บาท
  • ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,128.73 บาท
  • ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,543.85 บาท

ข้อ 2. การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคา ประกันรายได้เกษตรกร กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่าย "เงินประกันรายได้เกษตรกร งวดที่ 29" ดังนี้

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 377.25 บาท
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาสูงกว่าเป้าหมาย
  • ข้าวเปลือกเจ้า ราคาสูงกว่าเป้าหมาย
  • ข้าวเปลือกเหนียว ราคาสูงกว่าเป้าหมาย

เช็ก \'เงินประกันรายได้เกษตรกร\' ส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 29

โดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ในวันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 ซึ่งมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 1,510 ครัวเรือน  

ตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือน ดังนี้

เฉพาะที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรเท่านั้น ( ซึ่งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ ขึ้นอยู่กับบทบาทและภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ) ที่เว็บไซต์ (คลิกที่นี่

เช็ก \'เงินประกันรายได้เกษตรกร\' ส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 29

ตรวจสอบสถานะขั้นตอน - ช่องทางตรวจสอบเงิน ประกันรายได้ข้าว ดังนี้

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ (คลิกที่นี่) ตลอด 24 ชั่วโมง
  • กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
  • โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดของบัญชี จํานวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ

เช็ก \'เงินประกันรายได้เกษตรกร\' ส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 29

ตรวจสอบผลการโอนเงินบนแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ดังนี้

  1. หลังจากตรวจสอบใน เว็บไซต์  เรียบร้อยแล้ว หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน
  2. สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile จาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน กำหนดระยะเวลาการขึ้นทะเบียนสำหรับข้าวนาปี ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 ต.ค.65 แต่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.65 -28 ก.พ.66 โดยจะมีการกำหนดราคาตลาดเพื่อกำหนดราคาทุก 7 วัน และจะจ่ายเงินส่วนต่าง(ถ้ามี) จำนวน 33 งวดงวดแรกเริ่มต้น 14 ต.ค.65 งวดสุดท้ายวันที่ 26 พ.ค.66
  3. เช็กผลการโอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหากเงินถูกโอนเข้าบัญชีแล้วสามารถรับทราบได้ทันที

เช็ก \'เงินประกันรายได้เกษตรกร\' ส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 29

เกษตรกรที่ยังไม่ได้เงินชดเชยส่วนต่าง

กรณีโอนเงินไม่สำเร็จ จากปัญหาด้านบัญชีเงินฝาก ซึ่งจากการติดตามของ ธ.ก.ส. พบว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาไประดับหนึ่งแล้วทำให้ยอดการโอนเงินให้เกษตรกรไม่สำเร็จลดลง

แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้เกษตรกรตรวจสอบบัญชีเงินฝากและติดต่อกับ ธ.ก.ส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับเงินชดเชยส่วนต่างตามโครงการ เช่น กรณีปัญหา ชื่อ – สกุล ไม่ตรง บัญชีปิด บัญชีถูกอายัด หรือหากยังไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ขอให้เกษตรกรติดต่อเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้ดำเนินการโอนเงินให้แก่เกษตรกรได้ต่อไป