กกพ. ยันลด 'ค่าไฟ' ได้แค่ 7 สตางค์ ท้าเอกชนทำราคาการันตีนำเข้า LNG

กกพ. ยันลด 'ค่าไฟ' ได้แค่ 7 สตางค์ ท้าเอกชนทำราคาการันตีนำเข้า LNG

กกพ.เสียงแข็งประชุมบอร์ดวันนี้ ยันลดค่าไฟได้แค่ 7 สต. เหลือ 4.70 บาทเท่านั้น ให้เอกชนทำหนังสือการันตีนำเข้า เหลือ 13 ดอลลาร์ ยืนราคา เกินเท่าไหร่พร้อมรับภาระแทนประชาชน ถ้าทำได้พร้อมรื้อสูตรราคาใหม่ให้ทันที

แหล่งข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) วาระพิเศษ เพื่อพิจารณาค่าไฟฟ้างวดใหม่ พ.ค. - ส.ค. หรืองวดที่ 2 ปี 2566 ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ บอร์ดกกพ.จะพิจารณาในประเด็นที่คณะอนุกรรมการการกำกับดูแลการปรับอัตราค่าบริการไฟฟ้า เห็นชอบตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ค่าไฟลดลง 7 สตางค์ จากหน่วยละ 4.77 บาท เป็นหน่วยละ 4.70 บาทเท่านั้น ไม่มีการปรับสมมุติฐานอื่นๆ เนื่องจากการคำนวณค่าเอฟทีแต่ละงวด จะมีเงื่อนไขกำหนดชัดเจนว่า มีเกณฑ์การพิจารณาอย่างไร ไม่สามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตามอำเภอใจ ไม่เช่นนั้นการพิจารณาจะถูกแทรกแซงตลอดเวลา แต่ที่มาพิจารณาครั้งนี้ เป็นผลจากที่กฟผ. ยื่นหนังสือขอยืดการชำระหนี้ออกไปจาก 5 งวด หรือ 20 เดือน เป็น 6 งวด หรือ 24 เดือนแทน จึงทำให้บอร์ดต้องมาพิจารณาอีกครั้ง 

ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนระบุว่า อยากให้บอร์ดกกพ.ปรับเปลี่ยนสูตรการคำนวณค่าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี จากเดิมบอร์ดคิดจากค่าเฉลี่ยราคานำเข้า 20 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยเดือน ม.ค. 66 ให้เปลี่ยนมาใช้ราคาตลาดปัจจุบันเฉลี่ยต่ำกว่า 13 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียูมาคำนวณแทน จะทำให้ค่าไฟลดลงอีก 9% หรือปรับลดลงจาก 4.77 บาท เป็น 4.34 บาท และหากรวมกับตัวเลขยืดหนี้ของกฟผ.ที่ทำให้ค่าไฟลดลงอีก 7 สตางค์  จะทำให้ค่าไฟเหลือหน่วยละ 4.27 บาทนั้น ต้องชี้แจงว่า การคำนวณค่าแอลเอ็นจีแต่ละครั้ง จะมีการคาดการณ์ราคาล่วงหน้า มีสูตรที่ชัดเจน เพราะช่วงปลายๆปี ราคาแอลเอ็นจี จะแพงขึ้นอีก ถ้าภาคเอกชน โดยเฉพาะสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) การันตีราคานำเข้าแอลเอ็นจีเฉลี่ยจนถึงปลายปีที่ 13 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียูได้ หากมีการปรับขึ้นทางภาคเอกชน จะรับภาระแทนประชาชน ถ้าภาคเอกชน ทำหนังสือยืนยันเข้ามา ทางกกพ. จะใช้ราคานำเข้าแอลเอ็นจีที่ 13 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียูให้ได้ ต้องถามว่า กล้ารับประกันหรือไม่ 

“เรามีสูตรการคำนวณทุกอย่างที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นใครๆ ก็มาแทรกแซง จะทำให้การพิจารณาบิดเบือน ทำให้มีปัญหาในอนาคตได้ ราคาแอลเอ็นจี ตอนนี้ที่ปรับลดลง ก็ใช่ว่า จะยืนราคาที่ถูกถึงปลายปี เราถึงต้องประมาณการณ์เป็นทุก 4 เดือน เพื่อไม่ให้ราคาแกว่งมาก แล้วตอนนี้ยังมีประเด็นเรื่องค่าเงินบาทอีก รวมทั้งปริมาณก๊าซในอ่าวไทย จากเดิมภาคเอกชนระบุว่า จะป้อนก๊าซในอ่าวไทยได้เพิ่มปัจจุบัน 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มเป็น 400  ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนมิ.ย. 66 แต่ตอนนี้เลื่อนเป็นเดือนก.ค. 66 แล้ว ส่วนปลายปีที่บอกว่า จะป้อนเพิ่มเป็น 600  ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ก็ยังไม่รู้ว่า ทำได้หรือไม่ อาจทำให้ต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีเพิ่มมากขึ้นอีก”