สมาคมธนาคารไทยยันวิกฤติแบงก์ต่างแดนไร้ผลกระทบ

กรณีธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ที่กำลังประสบปัญหา และธนาคารสหรัฐฯ ล้มหลายแห่ง มองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารในต่างประเทศ อาจไม่ไม่ผลกระทบต่อธนาคารไทยมากนัก

เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กอบศักดิ์ ดวงดี ระบุ กรณีธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ที่กำลังประสบปัญหาและ ธนาคารสหรัฐล้ม หลายแห่งมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารในต่างประเทศ อาจไม่ไม่ผลกระทบต่อธนาคารไทยมากนัก เพราะธนาคารไทยมีฐานะการเงินเข้มแข็งทั้งในเรื่องของทุน และการสำรองหนี้เสีย ขณะเดียวกันสถาบันการเงินของไทยทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งระยะหลังมีการปรับปรุงในเรื่องกำกับดูแล ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพและอยู่ภายใต้การกำกับที่ดี รวมถึงการลงทุน หรือกู้เงินในธนาคารต่างประเทศที่เกิดปัญหาในสัดส่วนที่น้อยมาก จึงไม่มีผลกระทบมากนัก

สำหรับผลกระทบที่อาจทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอย จนอาจทำให้การส่งออกไทยชะลอลงนั้น จากการประเมินของ กกร.ช่วงที่ผ่านมา ในปี 2566 การส่งออกอาจอยู่ที่ระดับ 0 ถึงติดลบ 1% แต่เรื่องของธนาคารสหรัฐล้มละลายอาจไม่เกี่ยวข้องกับการส่งออกมากนัก แต่ในส่วนเศรษฐกิจโดยรัฐบาลสหรัฐ และสวิตเซอร์แลนด์ ออกมาตรการเสริมค่อนข้างเร็ว จึงเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งในเชิงผลกระทบและเชิงจิตวิทยาตลาดทุน

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์ออกมาตรการ หรือสนองต่อปัญหาโดยเร็วจะสามารถควบคุมความเสียหายต่างๆ ได้ และอาจจะช่วยให้สถานการณ์เป็นบวกได้ สะท้อนจากราคาหุ้นธนาคารในบางตัวเริ่มขึ้นแล้ว และไม่ได้ลงแรงมาก จึงมองว่าเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น สำหรับความผันผวนของตลาดการเงินส่งผลให้ตราแลกเปลี่ยนผันผวน เชื่อว่าธนาคารกลางต่างๆ รวมถึง ธปท.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

 

ด้านประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เกรียงไกร เธียรนุกุล ระบุ สิ่งที่น่าจับตาหลังจากนี้ คือปัญหาธนาคารขนาดกลาง ขนาดเล็ก กว่า 10 แห่ง รวมถึงธนาคารเครดิตสวิส ว่าจะลุกลามเป็นโดมิโน หรือ จะกระทบในช่วงสั้นเท่านั้น มองว่าขณะนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของวิกฤติครั้งนี้ เพราะปัญหาเงินเฟ้อยังไม่จบ การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ยังต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากนี้ต้องจับตากันอย่างใกล้ชิด หากปัญหาไม่ลุกลาม เชื่อว่า 1-2 เดือนน่าจะจบ