‘ภากร’ ชี้ปิดแบงก์สหรัฐกระทบไทยน้อย!

ภากร ปีตธวัชชัย ระบุ ประเทศไทยและในมุมของตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบไม่มากจากการที่หลายธนาคารของสหรัฐปิดตัว เนื่องจากระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยแข็งแรงมาก มีเงินทุนออมโดยเฉลี่ย 18-19% และมีการปล่อยสินเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไม่มาก

กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ภากร ปีตธวัชชัย ระบุ ประเทศไทยและในมุมของตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบไม่มากจากการที่หลายธนาคารของสหรัฐปิดตัว เนื่องจากระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยแข็งแรงมาก มีเงินทุนออมโดยเฉลี่ย 18-19% และมีการปล่อยสินเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไม่มาก

อีกทั้งเงินทุนที่มาจาก Venture Capital ที่มาจากคริปโทเคอร์เรนซีค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับระบบเศรษฐกิจ เชื่อว่าผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยจะไม่มากนัก ถ้าจะมีผลกระทบจะมาจากสภาพคล่องมากกว่า จากการที่สภาพคล่องในตลาดโลกลดลง โดยมีหลายธนาคารที่ยังไม่สามารถเปิดพอร์ตได้ตามปกติ ซึ่งจะมีผลกระทบทางอ้อม 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสูงในปีนี้คือ อัตราดอกเบี้ย และการลดลงของสภาพคล่อง ซึ่งจะอยู่ไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าธนาคารทั่วโลกจะมองเห็นว่าความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อลดลง ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจเรื่องการถอนเงิน-สภาพคล่องลดลง ซึ่งมองว่าเป็นปลายเหตุ 

ส่วนต้นเหตุคือดอกเบี้ยขึ้น โดยมีเหตุผลมาจากหลายปัจจัย เช่น ราคาสินค้าคอมมูนิตี้สูงขึ้น รวมทั้งความต้องการการบริโภคที่สูงขึ้น หากดอกเบี้ยขึ้นน้อยลง เงินเฟ้อไม่ปรับตัวสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้จะบอกเราว่าสภาพคล่องจะกลับมามากขึ้นอย่างไรบ้าง