ประมงพื้นบ้านสตูล ‘ปิดอ่าว’ กดดันรัฐแก้กม.

ท่าเทียบเรือปากบารากลับมาใช้ได้ตามปกติแล้ว แต่ต้องประเมินวันต่อวัน ขณะที่ผู้ประกอบการนำเที่ยววอนเร่งแก้ปัญหาประมงปิดอ่าวประท้วง เพื่อเรียกบรรยากาศท่องเที่ยวกลับคืน

หลังกลุ่มชาวประมงขนาดกลาง ใช้เครื่องมือปั่นไฟปลาหมึก กุ้ง และปลา ที่เดือดร้อนเรื่องปัญหาทับที่ทำกินกับอุทยานแห่งชาติ นำเรือปิดปากอ่าวปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล เมื่อวานนี้นั้นจนเรือที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรือนำเที่ยว และเรือประมงขนาดใหญ่ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ สร้างผลกระทบนั้น ล่าสุดวันนี้ทางจังหวัดและอำเภอละงู ได้เจรจาแล้วเพื่อขอให้เปิดพื้นที่เพราะสร้างผลกระทบให้กับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และให้จอดเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการประท้วงได้นั้น

ล่าสุดวันนี้เรือสปีดโบท เรือโดยสาร เรือประมงขนาดใหญ่สามารถขนถ่ายนักท่องเที่ยวจากเกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรุเตา และอาดังขึ้นลงฝั่งได้แล้ว แม้จะไม่ค่อยมั่นใจในความปลอดภัยเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องประเมินสถานการณ์กันชนิดวันต่อวัน มีบางบริษัทที่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย

นายสุวิทย์ ขาวดี ผู้ประกอบการบังกีมทัวร์ เปิดเผยว่า แม้ผู้ประท้วงจะเปิดช่องให้เรือที่ไม่เกี่ยวข้องแล่นผ่าน เป็นการ เปิดแค่บางส่วน เพราะขณะนี้ผู้ใหญ่กับผู้ประท้วงยังพูดคุยกันไม่เสร็จ ยอมรับว่าไม่กล้าจะนำนักท่องเที่ยวลงทางช่องทางท่าเรือนี้เพื่อความปลอดภัย และเป็นการระบายลูกค้าให้ทัน จำเป็นต้องใช้ชายหาดในบริเวณปากบาราขึ้นลงเรือไปพลางก่อนที่มีความสะดวก ยอมรับว่ามีนักท่องเที่ยวสอบถามมาบ้าง แต่อยากให้ผู้ประท้วงและผู้ใหญ่พูดคุยให้จบไวๆ เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมา ยอมรับว่ามีผลกระทบบ้าง ผู้ประกอบการก็พยายามอธิบายลูกค้า มีลูกค้าที่กำลังตัดสินใจโทรมาสอบถาม เลยบอกว่าแค่ระยะสั้น สามารถกลับมาใช้บริการเหมือนเดิม อยากให้ตกลงกันให้เร็วเพื่อให้ใช้ท่าเรือกลับมาปกติ

นางสาวปวีณัต หวันสู ผู้ประกอบการ Baramee Speedboat และ Jolly Travel เปิดเผยว่า เมื่อวานยอมรับว่าการให้บริการนักท่องเที่ยวขลุกขลักมาก โชคดีที่วันนี้บรรยากาศเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ก็ต้องประเมินกันวันต่อวันโดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักในการให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ทางผู้ประท้วงได้เปิดให้เรือได้วิ่งเข้าออกได้แล้วโดยเฉพาะเรือที่ไม่เกี่ยวข้องนั้น แต่ถึงอย่างไรในวันที่ 3 นี้ทางผู้ประกอบการต้องมีการวางแผนอีกครั้ง เพราะนักท่องเที่ยวต้องเดินทางกลับหลายคนมาจากต่างประเทศต้องเดินทางต่อด้วยสายการบิน ทำให้ต้องวางแผนการเดินทางให้ทันท่วงที

เนื่องจากผู้ประท้วงยื่นขอเสนอว่าหากไม่ได้คำตอบที่พอใจจะปิดอีกครั้งในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ซึ่งเตรียมแผนไว้รองรับแล้วเพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวขลุกขลัก พร้อมฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาให้เร็วไวพร้อมเชื่อว่าเขาคงเดือดร้อน อยากให้สถานการณ์จบลงด้วยดีมีความสุขกันทุกฝ่าย การท่องเที่ยวก็จะได้กลับมาปกติเหมือนเดิม