กขค.เผยคืบหน้าผลคดีรวมธุรกิจ และคดีปกครอง

กขค.เผยคืบหน้าผลคดีรวมธุรกิจ และคดีปกครอง

เลขาธิการ กขค.คนใหม่ เผย บอร์ดแข่งขัน ตัดสินคดีผลการรวมธุรกิจ ขอรวมธุรกิจ เตรียมเผยคำวินิจฉัยต่อสาธารณะ ขณะที่คดีทางปกครองอยู่ในระหว่างการพิจารณา 14 คดี โดยเฉพาะคดีรวมธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่

นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.)เปิดเผยว่า  คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.)หรือบอร์ดแข่งขันทางการค้า ได้พิจารณากรณีการแจ้งผลการรวมธุรกิจเสร็จสิ้นแล้ว 2 กรณี คือ กรณีการควบรวมธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรม และกรณีควบรวมธุรกิจประเภทวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร โดยหลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะจัดทำคำวินิจฉัยเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณะต่อไป 

ในส่วนของการดำเนินงานของคดีทางปกครอง ปัจจุบัน มีคดีที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า และสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเป็นคู่ความจำนวนทั้งสิ้น 14 คดี โดยมีกรณีคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น คดีที่ตัวแทนของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและ 36 องค์กร ขอให้เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการกขค.ที่มีคำสั่งอนุญาตให้รวมธุรกิจค้าปลีกอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายพร้อมโดยขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองหรือบรรเทาทุกข์ชั่วคราว แต่ศาลมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ไม่รับคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและ 36 องค์ผู้บริโภค แต่ในส่วนของเนื้อหาคดีหลักที่ยังโต้แย้งกันอยู่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้นที่ต้องติดตามผลแห่งคดีกันต่อไป

นอกจากนี้คณะกรรมการฯได้มีการสั่งลงโทษปรับทางปกครองผู้ประกอบกิจการแล้วหลายราย โดยผู้ประกอบธุรกิจที่ถูกลงโทษปรับเหล่านั้น ประกอบไปด้วยผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ ผู้ประกอบธุรกิจขนส่ง ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อผลไม้หรือที่เรียกว่า “ล้ง” โดยมี 11 ราย ที่ยังมิได้ชำระค่าปรับทางปกครอง และบางรายได้ใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาล โดยคณะกรรมการฯ ได้ใช้สิทธิตามกฎหมายฟ้องคดีเพื่อบังคับชำระค่าปรับทางปกครองด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องติดตามผลคำพิพากษาของศาลปกครองต่อไป  

นายวิษณุ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้ร่วมมือกับศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Trade Center) จัดการประชุมนำเสนอแผนงานการจัดตั้งศูนย์บริหารองค์ความรู้ด้านการแข่งขันทางการค้า (Competition Academy) และแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือกำกับดูแลการแข่งขันข้ามพรมแดน

ทั้งนี้ การร่วมมือกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าและหน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางการค้าของต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ เพราะนอกจากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในหลากหลายมิติแล้วยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ที่สนใจจะมาลงทุนในไทย