‘หมูเถื่อน’ ฉุดราคาในประเทศ ซ้ำเติมเกษตรกร

หมูเถื่อนเป็นปัญหาที่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ไทยเจอวิกฤตโรค ASF ระบาด ทำให้หมูหายไปจากระบบกว่า 50% ดันราคาเนื้อหมูสูงเป็นประวัติการณ์ เปิดโอกาสให้เกิดการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนไม่ผ่านการตรวจคุณภาพและความปลอดภัยมาขายในราคาถูก

เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูไทยกำลังเผชิญกับกับปัญหาราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มตกต่ำ สวนทางกับต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยสาเหตุที่ราคาหมูลดลงขณะนี้ไม่ได้เกิดจากปริมาณหมูที่เพิ่มขึ้นจนเกินความต้องการ แต่ราคาที่ลดลงเกิดจากชิ้นส่วนหมู หรือ หมูเถื่อน ที่มีการลักลอบนำเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านขายเนื้อหมูที่ตลาดสด พ่อค้าแม่ค้าบอกว่า ราคาหมูปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี ราคาเนื้อหมูเฉลี่ยลดลงมาประมาณกิโลกรัมละ 20-30 บาท แต่ยอดขายยังไม่ค่อยดีคาดว่ามาจากกำลังซื้อของประชาชนที่ลดลงรวมถึงปัญหาหมูเถื่อนที่ลักลอบเข้ามาทำให้ลูกค้าส่วนหนึ่งหันไปซื้อหมูราคาถูกแทน 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าทางร้านรับหมูมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ สะอาดปลอดภัย อยากฝากไปถึงผู้บริโภคต้องไม่เห็นแก่ของถูกมากเกินไป ควรเลือกจากคุณภาพและแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เพื่อมั่นใจได้ว่าเป็นเนื้อหมูที่ปลอดภัยต่อการบริโภค

ด้านผู้บริโภคบอกว่า ราคาหมูช่วงนี้ถูกลงกว่าแต่ก่อนมองว่าเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่กังวลกับหมูเถื่อนเพราะเลือกซื้อจากร้านประจำที่ไว้ใจได้อยู่แล้ว

ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน ผู้เลี้ยงหมูอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เพราะนอกจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์แล้ว ยังเจอปัญหาหมูเถื่อนที่ลักลอบเข้ามา แม้จะมีการจับและทำลายของกลางซากหมูไปมากกว่า 1 ล้านกิโลกรัมก็ตาม แต่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรยืนยันว่าเป็นเพียงแค่ 5% ของหมูที่ลักลอบทั้งหมด ดังนั้น ภาครัฐต้องปราบปรามอย่างจริงจังให้หมดภายในปีนี้ เพื่อให้สถานการณ์การผลิตกลับสู่ภาวะปกติ 18 ล้านตัว ในปี 2567 ตามเป้าหมายของกรมปศุสัตว์

ทีมข่าวเนชั่นทีวี รายงาน