เศรษฐกิจโลกถดถอย! สศช.หั่น GDP เหลือ 3.2%

สภาพัฒน์ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือโต 3.2% จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ 3.5% จากปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่จีดีพีปี 2565 ขยายตัวแค่ 2.6% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.2% หลังการส่งออกชะลอตัวในช่วงไตรมาส 4

เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ดนุชา พิชยนันท์ ระบุ สศช.ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 3 - 4% หรือค่ากลาง 3.5% เหลือ 2.7 - 3.7% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 3.2% โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 28 ล้านคน จากเดิมคาดว่าอยู่ที่ 23 ล้านคน มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.31 ล้านล้านบาท 

ด้านเงินเฟ้อคาดว่าอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 2.5-3.5% ส่วนค่าเงินบาทคาดว่าน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.3-33.3 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะติดลบ 1.6% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 5.5% จากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่จะเกิดขึ้น 

สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญให้เศรษฐกิจเติบโตในปีนี้มาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ การขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการขยายตัวในเกณฑ์ดีของภาคเกษตร ส่วนเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ยังต้องติดตามความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความผันผวนของระบบการเงินและบรรยากาศทางการเมืองหลังเลือกตั้ง

จีดีพีปี 65 โตแค่ 2.6% 

สำหรับปี 2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 2.6% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวได้ถึง 3.2% หลังได้รับผลประทบจากการส่งออกที่ชะลอตัวอย่างหนักในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ซึ่งโดยเฉลี่ยภาคส่งออกมีสัดส่วนคิดเป็น 50-60% ของจีดีพี

ส่วนไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 เศรษฐกิจขยายตัวเพียง 1.4% ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 4.5% หลังจากการส่งออกหดตัวมากถึง 10.5% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สอดคล้องกับหลายประเทศอาเซียนที่มีอัตราการส่งออกชะลอตัวลงเช่นกัน ส่วนตัวชี้วัดอื่น ๆ ยังปรับตัวดีและเศรษฐกิจยังคงมีเสถียรภาพ

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปี 2564 รวมถึงการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น