อีซีบีจ่อตั้งสกุลเงินยูโรดิจิทัล รับมือการครอบงำด้านเทคโนฯจากสหรัฐ-จีน

อีซีบีจ่อตั้งสกุลเงินยูโรดิจิทัล รับมือการครอบงำด้านเทคโนฯจากสหรัฐ-จีน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำลังดำเนินการเกี่ยวกับสกุลเงินยูโรดิจิทัล ในขณะที่ยุโรปกำลังแสวงหาแนวทางปกป้องตัวเองจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐ

อีซีบี เริ่มพิจารณาความเป็นไปได้ของสกุลเงินยูโรดิจิทัลในเดือนต.ค. 2564 และในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ประมาณปลายเดือนก.ย.และปลายพ.ย. บรรดาผู้นำประเทศทั่วสหภาพยุโรป (อียู) จะต้องตัดสินใจว่าอีซีบี ควรผลักดันประเด็นดังกล่าวไปสู่ขั้นตอนต่อไปหรือไม่ เพื่อที่ชาวยุโรปจะสามารถใช้เงินยูโรดิจิทัลได้

นายกุยโด ซิมเมอร์แมนน์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารแอลบีบีดับบลิว (LBBW) ของเยอรมนีกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า "อีซีบีกำลังเป็นกังวลว่า ยูโรโซนจะถูกกดดันจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐ และระบบการชำระเงินจากจีนโดยปราศจากสกุลเงินยูโรดิจิทัล เนื่องจากตอนนี้ ยุโรปยังขาดแคลนแพลตฟอร์มดิจิทัลอยู่"

 ด้านนางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี รับทราบถึงประเด็นดังกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อเดือนพ.ย. โดยเธอระบุว่า "การเข้ามาของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในภาคการชำระเงิน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการครอบงำตลาดและการพึ่งพาเทคโนโลยีการชำระเงินจากต่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ของยุโรป ปัจจุบัน ธุรกรรมการชำระเงินด้วยบัตรของยุโรปมากกว่า 2 ใน 3 ดำเนินการโดยบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่นอกอียู"

ทั้งนี้ มาสเตอร์การ์ด, วีซ่า, เพย์พาล, อาลีเพย์ และยูเนี่ยนเพย์ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการชำระเงิน ซึ่งในบรรดาบริษัททั้งหมดนี้ไม่มีเจ้าไหนเลยที่มาจากยุโรป โดย 3 บริษัทแรกนั้นเป็นของสหรัฐและอีก 2 บริษัทที่เหลือเป็นของจีน