จ่อจ่ายแพงอีกเดือน! "ค่าไฟ ก.พ." รัฐวิ่งหาเงินช่วย "กลุ่มเปราะบาง" ไม่ทัน

จ่อจ่ายแพงอีกเดือน! "ค่าไฟ ก.พ." รัฐวิ่งหาเงินช่วย "กลุ่มเปราะบาง" ไม่ทัน

กลุ่มเปราะบางยังคงต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเต็มจำนวนเท่ากลุ่มประชาชนทั่วไปที่หน่วยละ 4.72 บาท ในเดือนก.พ. 66 ต่อ เหตุ รัฐยังไม่ส่งเงินให้กับไฟฟ้าจัดจำหน่ายเพื่อทำส่วนลด

จากมติการที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2566 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้ากรอบวงเงิน 7,500 ล้านบาท สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือนในพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ รวมผู้ใช้ไฟรับประโยชน์ 19.66 ล้านราย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนม.ค.-เม.ย. 2566

โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วย/เดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์/หน่วยซึ่งไม่ได้มีการปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ขึ้นในกลุ่มนี้ และได้รับส่วนลดในอัตราเท่ากับงวดที่ผ่านมา ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้า ระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์/หน่วย โดยมีผลต่างค่า Ft เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์/หน่วย
ล่าสุด นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2566 ว่า ที่ประชุม กพช. มีมติเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบางในช่วงวิกฤตพลังงาน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแนวทางการให้ความร่วมมือของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง

ทั้งนี้ ได้เน้นการช่วยเหลือเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 วงเงินช่วยเหลือจะอยู่ที่ประมาณ 4,300 ล้านบาท และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สามารถนำต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลงดังกล่าว ไปใช้ในการลดค่าไฟฟ้าแก่กลุ่มเปราะบางข้างต้น โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำกับดูแลการดำเนินการต่อไป
แหล่งข่าวจาก กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แม้ครม.จะอนุมัติงบประมาณรวม 7,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบกลาง 3,200 ล้านบาท และกพช. เห็นชอบให้ปตท. แบ่งก๊าซมาผลิตไฟฟ้ารวม 4 เดือนจำนวน 4,300 ล้านบาท มาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 2566 แล้วก็ตาม แต่ปัญหาที่พบในขณะนี้คือการชำระค่าไฟฟ้าของกลุ่มดังกล่าวของใบแจ้งยอดชำระค่าไฟงวดเดือนม.ค. 2566 ยังคงเป็นจำนวนที่ยังไม่ได้รับส่วนลดใด ๆ เลย โดยจ่ายในอัตราหน่วยละ 4.72 บาท ปกติเทียบเท่ากลุ่มครัวเรือนทั่วไป

ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้รับงบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติมดังกล่าวมาให้กับการไฟฟ้าจัดจำหน่ายเพื่อนำมาลดค่าไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าว ดังนั้น จึงมองว่าใบชำระค่าไฟฟ้าของเดือนก.พ. 2566 ก็น่าจะยังคงเป็นราคาค่าไฟที่จะต้องจ่ายเต็มจำนวนและยังไม่ได้รับส่วนลดใด ๆ ซึ่งคาดว่าประชาชนกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือนตามมติครม.ก็อาจจะได้ส่วนลดในส่วนที่จ่ายไปแล้วของเดือนม.ค. 2566 ช่วงเดือนมี.ค. 2566 

“รัฐพยายามหาวิธีช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ทุกอย่างต้องใช้เงิน สิ่งสำคัญคือการหาเงินมาช่วย เพราะที่ผ่านมาก็ขอความช่วยเหลือปตท. มาตลอด ซึ่งครั้งนี้ปตท.จะให้เป็นเม็ดเงินมาเลยก็ยาก จึงแบ่งก๊าซจากโรงแยกก๊าซมาผลิตไฟฟ้าให้โดยตีเป็นวงเงินราว 4,300 ล้านบาท และส่วนที่เหลือรัฐก็ต้องหามาเติม เพราะตอนนี้ กฟผ.ก็แบกค่า Ft สูงเป็นหลักแสนล้านบาทแล้วเช่นกัน โดยได้รับคืนแค่หน่วยละ 22 สตางค์เท่านั้น” แหล่งข่าว กล่าว