หอการค้าไทย เผย อนาคตส่งออกอาหารไทยยังสดใส

หอการค้าไทย เผย อนาคตส่งออกอาหารไทยยังสดใส

รองประธานหอการค้าไทย เผยในเวทีสัมมนา อนาคตประเทศไทย Economic Drives เศรษฐกิจไทย..สตาร์ทอย่างไร ให้ก้าวนำโลก ชี้ อาหารไทยมีศักยภาพผลิตอาหารตอบโจทย์เทรนด์อาหารโลก

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย และนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย กล่าวในหัวข้อกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย“ในเวทีสัมมนา” อนาคตประเทศไทย Economic Drives เศรษฐกิจไทย..สตาร์ทอย่างไรให้ก้าวนำโลก”ที่จัดโดยโพสต์ทูเดย์ และเนชั่นทีวี ว่า สถานการณ์ความท้าทายในปัจจุบัน คือ 1. ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะสงครามรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลอาหารโลกโดยเฉพาะธัญพืชและข้าวสาลี ที่หายไปจากตลาดโลก เมื่ออาหารหายไปส่งผลต่อระดับราคา ทำให้เกิดการแย่งกันซื้อวัตถุดิบ แม้แต่ไทยก็ได้รับผลกระทบแม้ไทยจะส่งออกอาหารถึง 30% 

2.อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อแม้ว่าปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อจะลดระดับลงมาแล้วแต่ก็ยังส่งผลกระทบต่อประเทศที่กำลังพัฒนา และประเทศที่พัฒนาน้อย จากราคาต้นทุนที่ขยับขึ้น ซึ่งไทยเองก็ถูกส่งผ่านไปยังเรื่องของดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งเอสเอ็มอีที่อยู่ในระหว่างการฟื้นตัวจากโควิด-19 แต่ก็มาเจอกับดอกเบี้ยสูงก็ฟื้นตัวยากขึ้นไปเอง

 

3. มาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งเริ่มก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 พอเจอโควิด-19 ก็ชะลอตัว แต่จากนี้น่าจะเข้มข้นขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ต้องใช้มาตรการดังกล่าว  4.การเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างประเทศไม่สะดวกทำให้ขาดแคลนแรงงาน  เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้ออโตเมติกได้รวดเร็ว ยังจำเป็นต้องมีแรงงานคน และ 4.ราคาพลังงาน ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าช่วงนี้ราคาพลังงานจะปรับตัวลดลงแล้ว

สำหรับการส่งออกอาหารของไทยนั้น ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารโลกในอันดับ 13 และอันดับ 2 ผู้ส่งออกอาหารในอาเซียน โดยในปี 2565 คือ เป็นปีทองของอาหารไทย ที่เติบโต 22.3%  โดยสัดส่วน 10% มาจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งค่าเงินบาทถือว่าสำคัญมากสำหรับสินค้าเกษตรของไทย 

โดยตลาดสำคัญไทยคือ จีน อาเซียน ญี่ปุ่น สหรัฐและยุโรป สินค้าส่งออกสำคัญ คือ ข้าว อาหารสัตว์เลี้ยง ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ไขมันจากพืชและสัตว์ น้ำตาลทรายและกากน้ำตาล ซึ่งในปี 2566 เทรนด์อาหารโลกก็เน้นอาหารที่มาจากโปรตีนจากพืชและสัตว์ อาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงถือเป็นสินค้าม้ามืดของไทยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ที่แนวโน้มการส่งออกเพิ่มมากขึ้น 

 

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า  สำหรับอาหารอนาคต หรือFuture Food ของไทย คือ อาหารที่ดีต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นสินค้าแนวโน้มสดใสเพราะเกี่ยวข้องกับBCG   โดยไทยมีแผนผลักดันให้เป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตร และอาหารแปรรูปมูลค่าสูง ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิต โดยเฉพาะอาหาร 2 ชนิดคือ อาหารที่มาจากพืช และอาหารในอนาคต ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 2%  ของอาหารแปรรูปจากปศุสัตว์และสัตว์น้ำ หากเพิ่มเป็น 10% ภายใน 10 ปี  คาดว่าจะสร้างมูลค่าได้มหาศาล

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์