อ่านก่อนคิด จะจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยไทย | นฤมล นิราทร

อ่านก่อนคิด จะจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยไทย | นฤมล นิราทร

การย้ายพื้นที่ขาย (Relocation) หรืออีกนัยหนึ่ง “การไล่ที่” ดูจะเป็นวิธีการ “คลาสสิก” ของบ้านเราในการจัดการกับหาบเร่แผงลอย ดังเช่นที่เกิดกับย่านสีลมช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา

สถานการณ์นี้สะท้อนการละเลยแนวคิดสำคัญ เช่น “สิทธิที่จะมีอำนาจในการกำหนดชีวิตและความเปลี่ยนแปลงของเมือง” (Right to the City) “เมืองสำหรับทุกคน” (Inclusive City) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability Development Goals : SDGs)

แนวคิดการพัฒนาย่านธุรกิจมักให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และภูมิทัศน์ที่สะท้อนความทันสมัย น้อยนักที่จะเห็นการจัดวางพื้นที่สำหรับอาชีพฐานราก เช่น การค้าริมทางหรือหาบเร่แผงลอย

ทั้งนี้ไม่ใช่ด้วยเหตุผลของความเป็นตัวแทนความล้าสมัย ไม่พัฒนา แต่ยังเป็นเพราะปัญหาการบริหารจัดการซึ่งเรื้อรังมาโดยตลอด และการแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ในพื้นที่

อ่านก่อนคิด จะจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยไทย | นฤมล นิราทร

ในภาวะที่ยังคงตีบตัน เราน่าจะศึกษาแนวทางของบางประเทศ ซึ่งแม้จะเป็นกรณีศึกษาย้อนหลังหลายปี แต่ก็สะท้อนการทำงานที่สอดคล้องกับยุคสมัยและแนวคิดสากล คือ Right to the City และ Inclusive City ข้างต้น และแนวคิดที่สนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมในการบริหารจัดการ

กรณีอินโดนีเซีย ที่เมืองโซโลหรือสุรากาตา ในปี 2548 ผู้ว่าการคนใหม่ของเมืองเห็นความจำเป็นในการบริหารจัดการแผงลอย เพราะตระหนักถึงศักยภาพการค้าแผงลอยที่มีต่อเศรษฐกิจ มีการแบ่งทีมทำงานเป็น 2 ทีม

ทีมแรกจัดการด้านการหาพื้นที่ การก่อสร้างตลาดและการจราจร ทีมที่ 2 ดำเนินการเกี่ยวกับชุมชน เพื่อลดความขัดแย้ง การทำงานใช้เวลา 4 ปี ในการจัดการด้านโครงสร้างและเสริมพลังผู้ค้า

การย้ายพื้นที่กระทำด้วยความระมัดระวังและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รัฐบาลท้องถิ่นโน้มน้าวให้ผู้ค้าวางใจว่าจะไม่มีการขจัดการค้าริมทาง การเปลี่ยนแปลงจะทำให้ชีวิตดีขึ้น

ในช่วง 4 ปีรัฐบาลท้องถิ่นสร้างตลาดใหม่ 2 แห่ง ระหว่างการก่อสร้างมีการจัดสรรพื้นที่ขายและกำหนดเวลาขายให้ และพื้นที่ขายเดิมได้รับการปรับภูมิทัศน์ให้เป็นพื้นที่สีเขียว

ในการย้ายผู้ค้าที่มีมากถึง 989 ราย มีการสำรวจและประชุมร่วมกัน 56 ครั้ง เพื่อสื่อสารนโยบายของเมือง รวมทั้งให้คำมั่นว่าผู้บริหารเมืองสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ในที่สุดทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกันเรื่องการย้ายพื้นที่ 

อ่านก่อนคิด จะจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยไทย | นฤมล นิราทร

ในกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้น มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาร่วมทำงานด้วย เช่น สำนักการตลาด สำนักงานเขต สำนักงานตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น องค์กรของผู้ค้า องค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชน รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงด้วย 

ในกระบวนการนี้ผู้ค้ามีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน รวมถึงการร่วมตัดสินจัดสรรแผงค้า ผู้บริหารเมืองเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก ผู้ว่าการคนนี้คือ Joko Widodo ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของอินโดนีเซีย

กรณีของเวียดนาม เป็นการจัดการในพื้นที่แห่งหนึ่งหลังถูกไล่รื้อในปี 2555 จากการขยายถนน ทางการต้องให้ผู้ค้า 50 คนย้ายไปค้าในตลาดชั่วคราวของชุมชนที่มีผู้ค้าอยู่แล้ว 20 ราย

และยังมีผู้ค้าอื่นกระจายตัวในพื้นที่ใกล้เคียง การเข้ามาของผู้ค้ารายใหม่ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ค้ารายเก่า ทั้งด้านโอกาสและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น

การจัดการตลาดชั่วคราวที่มีผู้ค้าเพิ่ม มีการวางแผนอย่างระมัดระวัง ตั้งแต่การหารือกับประชาชนและผู้นำชุมชน รวมทั้งหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง สินค้าที่ขายส่วนใหญ่เป็นอาหารที่บริโภคประจำวัน ผู้ค้ามีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของสินค้า

และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ซื้อที่ส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชน และส่วนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับประโยชน์จากความสะดวก และราคาอาหารที่ไม่แพง 

การค้าริมทางในชุมชนไม่ก่อให้เกิดความรำคาญมากนัก เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ชาวชุมชนได้รับ ในขณะเดียวกันผู้ค้าให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาความสะอาด ชุมชนยังมีกระบวนการกำกับดูแลผู้ค้าอย่างต่อเนื่องด้วย

อาชีพแผงลอยในกรุงฮานอย มีกฎหมายและระเบียบกำหนดความรับผิดชอบ ผู้ค้าต้องไม่กีดขวางการสัญจร ไม่ก่อความรำคาญ ไม่ส่งเสียงดัง ประกอบการค้าด้วยความซื่อสัตย์ มีวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการขยะ ใช้แผงและอุปกรณ์การค้าที่ได้มาตรฐาน ฯลฯ

กฎหมายกำหนดให้ชุมชนมีบทบาทในการกำกับดูแลการค้าริมทางด้วย โดยทำงานประสานกับหน่วยงานรัฐในการกำหนดพื้นที่ให้ทำการค้า มอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบและรายงานผลการกำกับดูแลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กรณีทั้งสองสะท้อนการจัดการที่คำนึงถึงแนวคิดสำคัญข้างต้น รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะกับผู้ค้าและเศรษฐกิจของเมือง ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม และการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการวางแผนและปฏิบัติการอย่างรอบด้านและค่อยเป็นค่อยไป

การจัดการหาบเร่แผงลอยจึงไม่ใช่คิดแต่จะไล่ที่ แต่ต้องคิดอย่างครบถ้วน ไม่ผลีผลามกระทำโดยใช้อำนาจ เพราะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน หาบเร่แผงลอยไทยจึงยังคงเป็นอยู่อย่างที่เห็นกันทุกเมื่อเชื่อวัน