อวสาน “ซีโร่โควิด” จีน โอกาสทองของไทย??

อวสาน “ซีโร่โควิด” จีน โอกาสทองของไทย??

หลังจีนประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ ทำให้นักเที่ยวจีนส่วนใหญ่เตรียมเดินทางมาเที่ยวยังประเทศไทยหลังห่างหายไปนาน นอกจากจะเชื่อว่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้แล้ว แต่มาตรการด้านสุขภาพก็ยังคงต้องเข้มงวดต่อไป

ปลุกความหวังเศรษฐกิจไทยขึ้นมาทันที หลังจากคณะกรรมาธิการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (National Health Commission : NHC) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ประกาศเปิดประเทศ และยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2565 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเตรียมรับมือการเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวจีน

ซึ่งก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในปี 2566 ไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน (ไม่รวมจีน) คิดเป็นการฟื้นตัว 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.9 ล้านคนเมื่อปี 2562 และช่วยทำให้รายได้รวมการท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมาย 2.38 ล้านล้านบาท กลับมา 80% ของปี 2562 แต่พอจีนเปิดประเทศ จึงปรับเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ (รวมจีน) เข้าไทยไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน

การปิดฉากนโยบาย “ซีโร่โควิด” ในครั้งนี้สื่อทางการจีนรายงานว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีการค้นหาเที่ยวบินไปต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นทันที แพลตฟอร์มท่องเที่ยว “ตงเจิ้ง” ยอดการค้นหาพุ่งขึ้น 850% การหาข้อมูลวีซ่าเพิ่มขึ้น 10 เท่ารวมทั้งการค้นหาแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนสถานที่อยากไป จะเป็น มาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไทย และเกาหลีใต้ มากเป็นพิเศษ

ดังนั้นภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน และบริษัททัวร์ รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยต่างมีความหวังเนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังจ่าย รวมถึงภาคธุรกิจที่ต้องการลงทุนในไทย หรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสุขภาพ ที่มองว่าประเทศไทยมีจุดเด่นด้านเฮลท์แคร์ มารับบริการตรวจสุขภาพ wellness และรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ซึ่งจะส่งผลดีกับตลาดด้านสุขภาพอีกด้วย

ขณะที่มีรายงานการติดเชื้อในจีนที่ค่อนข้างสูง คนไทยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 4 เข็ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน หากเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือนแล้วให้รับเข็มกระตุ้น เพราะการฉีดวัคซีน 4 เข็มจะเสริมให้เกิดภูมิต้านทานและป้องกันโรค และการติดเชื้อของ โควิด-19 ก็ใกล้จะเหมือนไข้หวัดทั่วไปแล้ว โดยพบว่าคนที่ติดเชื้อในรอบ 2 อาการรุนแรงน้อยลงเหมือนกับไข้หวัดตามฤดูกาล และยังใช้มาตรการเว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่แออัด หรือมีผู้คนหนาแน่น ส่วนคนไทยที่จะเดินทางไปจีนหากได้รับเข็มสุดท้ายมานานเกิน 4 เดือน ควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์ และสวมหน้ากากอนามัยตลอด ล้างมือบ่อยๆ และ ปฏิบัติตามมาตรการที่จีนกำหนด

เพื่อความปลอดภัยและโปรโมชันดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากขึ้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโควิด-19 ฟรีแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน และประเทศอื่นๆ ด้วยตามความสมัครใจ เป็นการลงทุนที่ “คุ้มค่า” เพราะวัคซีนมีต้นทุนหลักร้อยเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 40,000 บาทต่อคน คิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% อยู่ที่ประมาณ 2,800 บาทที่นักท่องเที่ยวจ่ายให้ภาครัฐและเป็นการดูแลนักท่องเที่ยวในฐานะที่ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศที่มีระบบสาธารณสุขดีที่สุดของโลก มาลุ้นกันว่าหลังวันที่ 8 มกราคม 2565 กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อและเศรษฐกิจไทยจะพุ่งขึ้นมากน้อยแค่ไหน