NEX ลุยตลาดยานยนต์ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม ปักฐานแรกลงแหลมฉบัง

NEX ลุยตลาดยานยนต์ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม ปักฐานแรกลงแหลมฉบัง

NEX รุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมล่าสุดส่งมอบรถหัวลากไฟฟ้าให้ TIPS พร้อมกางแผนตั้งฐานแหลมฉบัง เปิดโชว์รูมจำหน่าย และติดตั้งสถานีชาร์จ

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า ขณะนี้กระแสตอบรับการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV) ในทุกประเภทค่อนข้างดีมาก โดยมียอดสั่งซื้อและส่งมอบรถอีวีทั้งที่เป็นรถขนส่งโดยสารสาธารณะ อาทิ รถเมล์ และรถประจำทางระหว่างจังหวัด ไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน ขณะที่รถ EV ประเภทอื่น ทั้ง รถบัสรับ-ส่งพนักงานโรงงาน รถบรรทุก 6 ล้อ และรถตู้ ก็มีกลุ่มผู้ประกอบการติดต่อเข้ามาจำนวนมาก

อีกทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ NEX ยังได้ส่งมอบยานยนต์หัวลากพลังงานไฟฟ้า 100% ให้กับ บริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือ บี 4 ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งได้จัดซื้อรถหัวลากไฟฟ้า จากบริษัท เอเชียพลัส อีวี จำกัด ผู้แทนจำหน่ายของ NEX เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจขนถ่ายสินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันและประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ทั้งยังเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานท่าเทียบเรือให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับสู่การเป็นท่าเรือสีเขียว โดยรถบรรทุกหัวลากไฟฟ้าดังกล่าวสามารถปฏิบัติการภายในท่าเรือได้สูงสุด 16 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มีความเร็วการชาร์จจาก 25 เปอร์เซ็นต์ ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ได้ภายใน 1.15 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ยังได้เปิดโชว์รูมจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ ภายใต้แบรนด์ NEX ที่ ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยบริษัท ศรีราชา เอ็นจีวีและบริการ จำกัด ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ NEX และทำสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า  ทั้งยังตอบโจทย์นโยบายในการเป็น “ชลบุรี เมืองสะอาด” ที่มุ่งเน้นการเป็นเมืองสะอาดและปลอดมลพิษ

ขณะเดียวกันกลุ่ม NEX กำลังเร่งวางยุทธศาสตร์ในการติดตั้งสถานีชาร์จให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ได้รับข้อมูลว่า กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงพนักงานและประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมหรือพื้นที่ใกล้เคียงหันมาใช้รถ EV มากขึ้น ดังนั้นในระยะแรกจะดำเนินการติดตั้งสถานีชาร์จในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งกำลังพิจารณาเลือกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนำร่อง คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงไตรมาสที่1 ปี 2566 โดยสถานีชาร์จดังกล่าวจะให้บริการจองเพื่อทำการชาร์จในแต่ละครั้งผ่านแอพพลิเคชั่น เมื่อถึงเวลาที่จองก็เข้ามารับบริการได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถ EV ทุกประเภทให้มากที่สุด

ด้านนายธีรพล ชินโน รองกรรมการผู้จัดการ-ท่าเทียบเรือ ที ไอ พี เอส กล่าวว่า บริษัทฯ ตัดสินใจใช้รถบรรทุกหัวลากพลังงานไฟฟ้าด้วยปัจจัยหลักคือ ต้นทุนราคาน้ำมันซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนหลักในการประกอบการมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการประกอบการ จากการศึกษาเห็นว่าพลังงานไฟฟ้าน่าจะเป็นทางเลือกที่สามารถนำมาแก้ไขปัญหาด้านดังกล่าว โดยบริษัทฯได้ทำการศึกษาทั้งด้านการออกแบบ ความสามารถในการบรรทุกและขับเคลื่อน ที่สำคัญคืออัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน โดยได้ขอนำรถบรรทุกหัวลากไฟฟ้ามาทดสอบจนมั่นใจในประสิทธิภาพ รวมถึงระยะเวลาการชาร์จและอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และเชื่อว่าจะช่วยลดต้นทุนการประกอบการในระยะยาว จึงได้สั่งซื้อมาเพื่อมาใช้งานจริง 

ประกอบกับรัฐบาลโดยการท่าเรือแห่งประเทศไทยมีนโยบายผลักดันและส่งเสริมให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือสีเขียว (Green Port) ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทางบริษัทฯจึงต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการลดมลภาวะภายในท่าเทียบเรือด้วยการใช้พลังงานสะอาด เพื่อยกระดับให้ ที ไอ พี เอส กลายเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คำนึงถึงคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการสร้างมลภาวะในท่าเรือแหลมฉบัง และสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้หากผลการใช้งานจริงเป็นที่น่าพึงพอใจก็จะตัดสินใจขยายกองรถต่อไป