การทางฯ ลุยด่วนกะทู้ - ป่าตอง 1.4 หมื่นล้านบาท เตรียมเปิดขายซอง 26 ธ.ค.นี้

กทพ.ติดเครื่องทางด่วนกะทู้ - ป่าตอง ออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท รับสัมปทาน 35 ปี เตรียมเปิดขายซอง 26 ธ.ค.นี้
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (19 ธ.ค.) กทพ.ได้ออกประกาศประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost แบ่งเป็น กทพ. รับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
และผู้ร่วมลงทุนรับผิดชอบการออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง (รวมถึงค่าควบคุมงาน) และการดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) โดยผู้ร่วมลงทุนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รายได้ค่าผ่านทาง ทั้งนี้ ผู้ร่วมลงทุนจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ กทพ. ก่อนเริ่มเปีตบริการในลักษณะของ BTO (Build-Transfer-Operate)
สำหรับโครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เป็นโครงการก่อสร้างทางยกระดับมีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวเส้นทาง ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร และมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง จำนวน 1 แห่ง โดยมีระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้นไม่เกิน 35 ปี นับจากวันที่ กทพ. มีหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ระยะดังนี้
- ระยะที่ 1 ออกแบบและก่อสร้าง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 4 ปี นับจากวันที่ กทพ. มีหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน
- ระยะที่ 2 การดำเนินงานบริหารจัดการและบำรุงรักษา โดยมีระยะเวลาตั้งแต่วันเปิดให้บริการโครงการฯ จนถึงวันที่ครบกำหนด 35 ปี นับจากวันที่ กทพ. มีหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน
อย่างไรก็ดี การคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550 อย่างเคร่งครัด สำหรับ ผู้สนใจสามารถซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal : RFP) โครงการทางพิเศษสายกะทู้ - ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ได้ในวันทำการของ กทพ. ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2565 ถึงวันที่ 25 ม.ค. 2566
นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากเปิดขายซองเอกสารแล้ว จะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในต้นเดือน มี.ค.2566 และตามกระบวนการจะใช้เวลาพิจารณาข้อเสนอเอกชนเป็นเวลา 6 เดือน เบื้องต้นจึงคาดว่าจะได้ตัวเอกชนผู้ชนะการประมูลปลายปี 2566 ก่อนจะเริ่มต้นก่อสร้างโครงการในปี 2567 ก่อสร้างและเสร็จเปิดให้บริการในปี 2570
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 14,670.57 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,792.24 ล้านบาท
- ค่าก่อสร้าง (รวมค่าควบคุมงาน) 8,878.34 ล้านบาท
ทั้งนี้ กทพ.คาดการณ์ปริมาณจราจร ณ ปีเปิดให้บริการ ประมาณ 71,000 คันต่อวัน (รถยนต์ 36,000 คันต่อวัน รถจักรยานยนต์ 35,000 คันต่อวัน) สำหรับทางด่วนสายนี้มีขนาด 8 ช่องจราจร (ไป-กลับฝั่งละ 4 ช่องจราจร) ให้รถยนต์วิ่ง 2 ช่อง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจร เบื้องต้นจัดเก็บค่าผ่านทางรถจักรยานยนต์ 15 บาท ,รถ 4 ล้อ 40 บาท, รถ 6-10 ล้อ 80 บาท และมากกว่า 10 ล้อ 125 บาท






