เปิดแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ 66 รัฐปลุกกำลังซื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพ

เปิดแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ 66 รัฐปลุกกำลังซื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพ

ลุ้น ครม.เคาะแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ 20 ธ.ค. "คลัง" ชงช้อปดีมีคืน 4 หมื่นบาทต่อคน "ท่องเที่ยว" เสนอเปิดผับถึงตี 4 ต่อเราเที่ยวด้วยกัน “คมนาคม”ชูปฏิรูปขนส่งสาธารณะ เปิดใช้รถเมล์ไฟฟ้าครบ 1,250 คัน ฟรีค่าทางด่วน “พลังงาน” ต่ออายุพยุงค่าก๊าซหุงต้ม “LPG-NGV แท็กซี่-ค่าไฟ

การจัดทำแพคเกจของขวัญปีใหม่ของรัฐบาลให้ประชาชนนั้นล่าสุดหน่วยงานต่างๆ ได้ส่งเรื่องบรรจุเป็นวาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันอังคารที่ 20 ธ.ค.2565 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้มาตรการของขวัญปีใหม่เสนอ ครม.หลังเดินทางกลับจากการประชุมร่วมอาเซียน-สหภาพยุโรป ที่ประเทศเบลเยียม

สำหรับมาตรการของขวัญปีใหม่ที่น่าสนใจ เช่น กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน โดยจะเสนอมาตรการช้อปดีมีคืนที่กำหนดให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า และบริการมาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงวงเงินสูงสุด 40,000 บาท ซึ่งคาดว่า กรมสรรพากร สูญเสียรายได้ 8,200 ล้านบาท แต่จะส่งผลดีเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 56,000 ล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.1-0.2%

ทั้งนี้ ในวงเงิน 40,000 บาทดังกล่าว แบ่งเป็น วงเงินสำหรับการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าทั่วไปไม่เกิน 30,000 บาท และการซื้อสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีใบกำกับภาษีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ 10,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.2566 รวมระยะเวลา 46 วัน โดยครั้งนี้จะเพิ่มเติมจากครั้งก่อนที่นอกจากจะนำค่าใช้จ่ายซื้อของที่มีใบกำกับภาษีเป็นกระดาษมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท ยังนำใบกำกับภาษีที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์มาลดหย่อนได้เพิ่มอีก 1 หมื่นบาท

สำหรับรายจ่ายที่ใช้สิทธิได้จะเป็นค่าซื้อสินค้าและบริการเหมือนที่ผ่านมา ยกเว้นค่าซื้อสินค้าสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ จักรยานยนต์ เรือ ค่าที่พักโรงแรม ค่าไกด์นำเที่ยว ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ตและค่าเบี้ยประกัน

เตรียมแผนช่วยผู้มีรายได้น้อย

ขณะเดียวกันยังจะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้มีรายได้น้อยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงกลุ่มเปราะบาง รวมถึงมาตรการจากสถาบันการเงินรัฐที่จะเสนอ อาทิ การให้รางวัลพิเศษสำหรับสลากออมสิน รวมถึงมอบของขวัญปีใหม่สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีวินัยผ่อนชำระดีจะได้รับเงินคืนเข้าบัญชี 500-1,000 บาท

นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายอายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยที่จะสิ้นสุดปลายปีนี้ออกไปอีก 1 ปี โดยลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% ลงเหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก 1% ลงเหลือ 0.01% ครอบคลุมที่อยู่อาศัยใหม่และมือสอง ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด 

ส่วนมาตรการอื่นที่กระทรวงการคลังเสนอ เช่น การขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้ในประเทศเหลือลิตรละ 0.20 บาท จากเดิมสิ้นสุด 31 ธ.ค.2565 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และลดค่าครองชีพให้ประชาชนที่เดินทางไม่ให้เสียค่าโดยสารที่สูงจนเกินไป

 

เสนอต่อเราเที่ยวด้วยกัน

ขณะที่มาตรการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงท่องเที่ยวนั้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จะเสนอ ครม.วันที่ 20 ธ.ค.2565 เพื่อขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น.จากเดิม 02.00 น. ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเศรษฐกิจในภาคกลางคืน 

ทั้งนี้ จะเสนอเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับประชาชนร่วมกับโครงการอื่น ได้แก่ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จำนวน 1.5 ล้านสิทธิ ใช้งบประมาณอยู่ที่ 5,400 ล้านบาท ส่วนอีก 3,300 ล้านบาท จะใช้จัดทำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย

ต่อมาตรการอุ้ม “ก๊าซ-ค่าไฟ

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า กระทรวงพลังงานเตรียมของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้อนุมัติคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.2566

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถแท็กซี่ในโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกันของ ปตท.ไว้ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนรถยนต์ทั่วไปปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV จาก 16.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 17.59 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2565-15 มี.ค.2566 ซึ่งการช่วยเหลือตามแนวทางนี้คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือของ ปตท.ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2565 ถึงวันที่ 15 มี.ค.2566 ประมาณ 2,682 ล้านบาท

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาผลการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่ กฟผ.เสนอตามแนวทางที่ กพช.เห็นชอบ ประจำงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2566 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยอัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟยังจ่ายเท่าเดิมที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นที่อัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย จะทำให้มีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 5.69 บาทต่อหน่วย

ของขวัญรถเมล์ใหม่“อีวี”

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมรวบรวมโครงการของขวัญปีใหม่ 2566 เพื่อมอบให้แก่ประชาชน โดยจะเสนอ ครม.วันที่ 20 ธ.ค.2565 ซึ่งของขวัญใหม่จะปรับปรุงบริการสาธารณะ เช่น การเปลี่ยนรถเมล์ ขสมก.จากรถเก่าเป็นรถพลังงานไฟฟ้า (อีวี) รถโดยสารใหม่ โดยปี 2566 จะได้ใช้รถเมล์อีวีใหม่ 1,250 คัน

สำหรับรถเมล์ไฟฟ้าจะเป็นบริการสาธารณะที่ประชาชนทุกกลุ่มใช้งานอย่างสะดวก เพราะให้บริการผู้โดยสารที่ใช้ Wheel Chair อีกทั้งยังติดตั้งและใช้เครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ (GPS) ติดตั้งและใช้ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket System) ติดตั้งระบบ CCTV เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เส้นทางการเดินรถที่ครอบคลุมเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนทุกระบบ และมีเป้าหมายจะนำรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการเพิ่มต่อเนื่อง รวมประมาณ 8,000 คันภายใน 3 ปี

งดเก็บค่าทางด่วน-มอเตอร์เวย์

นอกจากนี้ จะยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ (ทางด่วน) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เส้นทางบูรพาวิถี และทางด่วนกาญจนาภิเษก (บางพลี–สุขสวัสดิ์) รวมถึงทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา

ส่วนกรมทางหลวง จะให้บริการวิ่งฟรีชั่วคราวบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร เช่นเดียวช่วงเทศกาลที่ผ่านมา

รวมถึงยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 กรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง ตอนกรุงเทพมหานคร-เมืองพัทยา และมอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน