ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง 6.80 ดอลล์ ตลาดพักฐาน หลังพุ่งแรงวานนี้

ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง 6.80 ดอลล์ ตลาดพักฐาน หลังพุ่งแรงวานนี้

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันพุธ(14ธ.ค.)ร่วงลง 6.80 ดอลลาร์ หลังพุ่งขึ้นวานนี้ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนก.พ. ลบ6.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,818.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำ ตลาดนิวยอร์กปิดวานนี้พุ่งขึ้น 33.20 ดอลลาร์ หรือ 1.85% สู่ระดับ 1,825.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. ขานรับการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ.2566 ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีหน้า หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดวานนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 58.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2566 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 35.1%

ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้น 30% สู่ระดับ 2,250 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีหน้า

ทั้งนี้ นายเอริค โรเบิร์ตเซน หัวหน้านักวิจัยระดับโลกของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานชื่อ "เรื่องเซอร์ไพรส์ของตลาดการเงินในปี 2566" หรือ "The financial-market surprises of 2023" โดยได้ระบุถึงเหตุการณ์หลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งตลาดได้มองข้ามไป

หนึ่งในเหตุการณ์ในรายงานดังกล่าวคือการที่ราคาทองจะพุ่งขึ้น 30% สู่ระดับ 2,250 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองเพื่อหาเสถียรภาพ ท่ามกลางความผันผวนในตลาดหุ้น