“โพลล์"ชี้ คนไทยอยากให้ คุมราคาสินค้า คุมค่าไฟ ดูแลภาคเกษตร เป็นของขวัญ

“โพลล์"ชี้ คนไทยอยากให้ คุมราคาสินค้า คุมค่าไฟ ดูแลภาคเกษตร  เป็นของขวัญ

ในช่วงสุดสัปดาห์จะมีการเปิดเผยผลโพล์จากสำนักการศึกษาต่างๆดำเนินการและเผยแพร่ออกมา ซึ่งรัฐบาลก็มีการทำโพล์เช่นกัน“ในเรื่องของขวัญที่คนไทยอยากได้ช่วงปีใหม่นี้” ซึ่งผลโพล์ก็ชี้ว่าคนไทย 3 สิ่งสำคัญๆทั้งราคาสินค้า การคุมค่าไฟฟ้า และเห็นด้วยกับมาตรการ“คนละครึ่ง”

การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่สัปดาห์ที่ผ่านมา (6 ธ.ค.2565) ที่ประชุมได้รับทราบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ  เสนอผลการสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2566  หรือ ของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล    โดยเป็นการสัมภาษณ์สมาชิกในครัวเรือนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 6,970 ราย ระหว่างวันที่ 17-31 ต.ค. 2565 สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. เรื่องที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อเป็นขวัญปีใหม่ในปี 2566 มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค 91.1%  (2) ลดค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา 67%  (3) แก้ปัญหาด้านการเกษตร เช่น ราคาพืชตกต่ำ จัดหาตลาดรองรับผลผลิต และราคาปุ๋ยแพง 30%  (4) แก้ปัญหาการว่างงาน 23.4%  และ (5) เพิ่มมาตรการ/สวัสดิการ/เงินช่วยเหลือเยียวยา เช่น โครงการคนละครึ่ง เพิ่มเงินผู้มีรายได้น้อย และเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา/ผู้พิการ

2. มาตรการ/โครงการที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในชุมชน/หมู่บ้านมากที่สุด ได้แก่ (1) โครงการคนละครึ่ง 75.8%  (2) โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 69.9%  (3) มาตรการลดค่าไฟฟ้า 59.2%  (4) โครงการเราชนะ 25.1%  และ (5) โครงการ ม.33 เรารักกัน 14.8%

 5. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ดังนี้

5.1 ควรมีมาตรการ/โครงการช่วยเหลือและลดภาระค่าครองชีพของประชาชน เช่น มาตรการลดค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค และเพิ่มวงเงินในโครงการคนละครึ่ง

5.2 ควรเร่งแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดการจ้างงานและสร้างอาชีพแก่ประชาชน เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำในการประกอบอาชีพ และหาตลาดรองรับผลผลิตทางการเกษตร

5.3 ควรเร่งสร้างความร่วมมือ เครือข่าย และกระบวนการป้องกันไม่ให้คนในสังคมเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเข้าไปสู่วงจรของยาเสพติด เช่น สร้างความสามัคคีในชุมชน สร้างการสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งการใช้กฎหมายลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจังและเด็ดขาด

5.4 ควรมีการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ และภัยพิบัติต่าง ๆ

5.5 ควรประชาสัมพันธ์ข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้ของประชาชนเรื่องการถูกหลอกลวง/ล่อลวงทางโซเซียลมีเดียเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ช่องทางการร้องเรียน/ร้องทุกข์ เช่น สายด่วนศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 และสายดาวนตำรวจไซเบอร์ 1441