หอการค้าไทย-จีน หวังท่องเที่ยวดันเศรษฐกิจฟื้น

หอการค้าไทย-จีน เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาส 1 ปีหน้า หวังการท่องเที่ยงพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ยังห่วงหนี้ครัวเรือนและหนี้เสียในระบบสถาบันการเงิน ปัญหาเงินเฟ้อที่ส่งผลถึงนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน

ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ระบุ ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน ไตรมาส 1 ปี 2566 พบว่าความท้าทายที่น่ากังวลมากที่สุดต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2566 คือปัญหาของเงินเฟ้อที่ส่งผลไปถึงการใช้นโยบายทางการเงินในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศที่มีความแตกต่างกัน ที่กระทบต่อความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยืดเยื้อยาวนาน

ความท้าทายที่น่ากังวลของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ประกอบด้วย 4 เรื่อง ที่ได้รับน้ำหนักเท่าๆกันจาก ปัจจัยในประเทศ คือหนี้ครัวเรือน และหนี้เสียในระบบสถาบันการเงิน และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การส่งออกที่ชะลอตัวเพราะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญยังไม่ฟื้นเต็มที่ และการรอคอยการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศโดยรอนักท่องเที่ยวจากจีนเป็นสำคัญ

สัญญานการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากปลายปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยือนไทย 10 ล้านคน พบว่า 58% มั่นใจว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยในปี 2566

สำหรับโอกาสของประเทศไทยที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นได้อย่างรวดเร็วในปี 2566 มาจากการกลับมาเยือนไทยอย่างมีนัยยะสำคัญของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และความสำเร็จที่จะดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนโดยตรงในอุตสาหกรรมใหม่ๆ รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่จะเริ่มจับจ่ายใช้สอย และภาครัฐลงทุนเพิ่มในปรับระบบสาธารณูปโภค

ส่วนปัญหาของเงินเฟ้อที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่คาดว่าปัญหาที่เกิดจากเงินเฟ้อจะเริ่มผ่อนคลายลงในไตรมาสที่ 2 

ส่วนการคาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ของไทยโดยรวมในไตรมาสแรกปีหน้า 55% คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น ทั้งนี้ ภาคธุรกิจที่ยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาสหน้า คือ ธุรกิจการท่องเที่ยว พืชผลการเกษตร ธุรกิจบริการสุขภาพ ธุรกิจออนไลน์ และธุรกิจสินค้าเกษตรแปรรูป ส่วนธุรกิจที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ ธุรกิจการท่องเที่ยว พืชผลการเกษตร อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง พลังงานและสาธารณูปโภค